วันศุกร์, ธันวาคม 25, 2552

นินทา ความลับ และ ความไว้ใจ

คิดยังไง กับ คำว่า "นินทา" 

สำหรับบางคน มัน คือ เรื่่องสนุก
สำหรับบางคน มัน คือ การยอมรับ
สำหรับบางคน มัน คือ สิ่งเลวร้าย
สำหรับบางคน มัน คือ การแสดงออกทางความรักอย่างหนึ่ง
สำหรับบางคน มัน คือ ละคร
สำหรับบางคน มัน คือ บาป

และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับใครบางคน
และเป็นที่แน่นอนว่า ทุกคน มักเคยทำมัน 
อย่างน้อยเราก็ยอมรับว่าเราชอบการนินทาอยู่ไม่น้อย
เพราะในวงของการนินทานั้น มักมีประเด็นที่ทำให้เราสนุก และคิดตามไปกับมันได้อย่างไม่เคอะเขิน หรือแม้แต่บางครั้ง มันยังทำให้เราได้คิดอะไร ได้มองย้อนกลับมาดูตัวเอง

แล้วคุณ คิด ยังไง กับ คำว่า "ความลับ" 

ความลับ คือ สิ่งที่ต้องการให้ใครบางคนล่วงรู้ 
ความลับ คือ สิ่งที่ใครบางคนอยากระบายเพื่อให้เกิดความสบายใจกับตัวเอง
ความลับ คือ สิ่งที่ใช้ความเชื่อใจ ความไว้ใจ เป็นเดิมพัน

และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับคำว่า ความลับ

ทั้งสองคำนี้ดูจะเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกัน คนละขั่ว
แต่สำหรับเราแล้ว ทั้งสองคำนี้ อยู๋ใกล้ชิดกันจนน่าตกใจ
อาจมีเพียงเส้นด้ายบางๆที่กั้นระหว่างคำทั้งสองนี้อยู่

ทุกครั้งที่เกิดการนินทานั้น ก็มีคำว่า ความลับ แฝงตัวอยู่ในนั้นเสมอ
และทุกครั้งที่การนินทานั้นก้าวต่อไป จาก ปากหนึ่ง สู่ อีก ปากหนึ่งนั้น 
ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมากในการบอกต่อ เพื่อไตร่ตรองว่า 
เรื่องเหล่านั้นควรที่เขาคนนั้นควรจะรับรู้หรือไม่
ซึ่งหากไม่คิดตรึงตรองให้ดีแล้ว 
อาจจะทำให้เกิดความผิดหวัง และการผิดใจกัน ซึ่งนำไปสู่การไม่ไว้ใจอีกต่อไป

ความผิดหวังในที่นี้ หมายถึง ความผิดหวังในผู้ส่งที่ไว้ใจว่า ผู้รับจะใช้วิจาณญาณนั้นในการไตร่ตรองก่อนบอกต่อเช่นเดียวกับที่ผู้ส่งทำ ซึ่งจากจุดนี้เองที่ทำให้นำไปสู่ความไม่ไว้ใจอีกต่อไป

ซึ่งความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ยากเหลือเกิน
ที่จะซ่อมแซมมันให้กลับมามีสภาพดีดั่งเก่า
ทำให้เห็นว่า หากขาดหัวคิดในเรื่องนี้แล้ว จะเกิดผลที่ไม่สู้ดีนักตามมา

ซึ่งทำให้เราซึ่งเขียนเรื่องนี้ ไม่แน่ใจกับการไว้ใจใครได้อีก 
และทำให้คิดว่า การนินทา จริงๆแล้วก็มีศาสตร์ที่ควรเรียนรู้ เช่นเดียวกัน

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 24, 2552

เศษเสี้ยวของความจริง

เรื่องราวทั้งหลายในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นมาจากเศษเสี้ยวของความจริง 

ไม่มากก็น้อย

แต่ก็มีบางคนมักจะไม่ยอมรับว่า 
เศษเสี้ยวเหล่านั้น คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง
มักจะปักใจเชื่อแต่สิ่งที่ตัวเองเชื่อ 
ตาบอดและไม่ยอมมองสิ่งที่เกิดขึ้นจากสายตาคนอื่น
จนกล่าวหาว่าเรื่องราวที่ได้รับฟังเหล่านั้น 
เกิดจากการที่สังคมไม่ยอมรับในตนเอง 
เกิดจากการใส่สี ตีไข่

ช่างน่าสงสาร 

หากยอมรับสักนิดกับความจริงที่เล็กน้อยเหล่านั้น
ชีวิตที่คิดว่า ขาดซึ่งการยอมรับ คงจะต้องพบกับความสุขอย่างแน่นอน
เพียงแต่เค้า นั้น ตาบอด สนิท เกินกว่าจะแก้ไข ได้
หาเรื่องที่จะมาเป็นกำแพงที่กั้นขวางความจริงเอาไว้เสมอ

หากได้อ่านบทความนี้อาจจะคิดว่า เรานั้นเกลียดคนๆนั้น
แต่เปล่า เราไม่ได้เกลียด และไม่เคยเกลียด หากแต่เป็นห่วงก็เท่านั้น
และเขา อาจจะคิดว่า เราเป็นคนที่แย่ ในสายตาของเขาก็เป็นได้ ....

วันอาทิตย์, ธันวาคม 20, 2552

^_^


ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังทำ Thesis  ในหัวข้อเรื่อง มุมของการมอง
หลังจากส่งครั้งที่ 2 ไป ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะ ทำยังไงต่อดี
พอคิดไม่ออก ก็เลยมานั่งวาดรูปเล่นซะเยอะ 
เลยว่าจะเอามาอวดนิดนึง 






















































แล้วก็เพิ่งมาสังเกตุเห็นว่า ตัวเองใช้สีเขียวในเกือบทุกรูปที่วาดเลยแหะ ก็ตอนจะเอารูปลงนี้แหละ สงสัยว่าจะหลงใหลในสีเขียวเข้าให้แล้วจริงๆ และการวาดรูปเล่นๆที่ดูไม่มีอะไรนี่แหละที่ทำให้ฉันยิ้มได้ 

วันศุกร์, กันยายน 18, 2552

รองเท้า

การซื้อรองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึก
เหมือนมันเป็นเพื่อนสนิทนี่ยากจริงๆ

จริงๆแล้วก็เปนคนที่มีรองเท้าเยอะมาก
แต่คู่ที่ใส่ประจำ ใส่แล้วรู้สึกสบาย สะดวกใจ
กลับมาอยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น และเมื่อวันเวลาผ่านไป
รองเท้าคู่นี้ก็ต้องพุพังไปตามกาลเวลา
และการที่จะหารองเท้าคู่ใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกแบบนี้ได้
ก็ดูจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งตลอดเวลาเดือนที่ผ่านมานั้น
ใช้เวลาในการช๊อปปิ้งไปกับการหารองเท้า
แต่จนตอนนี้ ก็ยังไม่เจอคู่ที่ถูกใจเสียที

ถูกใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่เพียง สวย ดูดี เท่านั้น
แต่มันเหมือนกันว่า ถูกชะตา เสียมากกว่า
แต่ละครั้งที่ได้รองเท้าที่ใส่ประจำนั้น
มักจะได้มาจากการถูกชะตากับมัน
ซึ่งแน่นอน ความสวย เรียบง่าย หรือใส่สบาย ก็ต้องมีอยู่ในนั้นด้วย

การเลือกรองเท้าที่ดี ก็ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีด้วย
ดังนั้นเราจึงคิดว่า ไม่ใช่เรื่องตลกที่จะตามหารองเท้าคู่หนึ่งในระยะเวลานาน

วันพฤหัสบดี, กันยายน 17, 2552

District 9

วันนี้ไปดูหนังเรื่อง District 9
เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่มาติดอยู่บนโลกมนุษย์
และมนุษย์ก็หาทางที่จะศึกษาและใช้เทคโนโลยีจากต่างดาว
โดยการกดขี่และข่มเหงเหล่ามนุษญ์ต่างดาว
ซึ่งประทับใจตอนจบของเรื่องนี้มากๆ
หนังเรื่องนี้ ถูกจำแนกไว้ว่า เป็นหนัง Action/Sci-fi
แต่สำหรับเรานั้นมันเป็นดราม่าซะด้วยซ้ำ
มันพูดถึงเรื่องราวประชดสังคมในปัจจุบันได้อย่างแนบเนียน
ทำให้คิดถึงสังคมในโลกเราได้ในอีกมุมมอง

ไม่อยากจะเล่ามาก เดียวจะหาว่าสปอย
ต้องดูเอง แต่แนะนำว่า ดี ควรค่าแก่การรับชม
(ถึงแม้ว่าจะดูแล้วปวดหัวนิดๆเพราะจอหมุนเหลือเกิน)

วันอาทิตย์, กันยายน 06, 2552

จริงจัง

สำหรับเราคิดว่า
การวางแผนล่วงหน้า เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกพร้อมและมั่นคง
อย่างน้อยๆ เรื่องของการตรงต่อเวลา
ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มเครดิตให้ตัวเอง
แต่มักจะมีคนต่อว่า เรา ว่า จริงจัง เกินไป
จึงไม่เข้าใจว่า การเที่ยงตรง การประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า
หรือแม้กระทั่งการวางแผนการเดินทางเพื่อไปให้ทันเวลา
กลายเป็นเรื่อง ผิดปกติ หรือ อย่างไร

หลายๆคนมักมองข้ามสิ่งเหล่านี้ ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นจุดเล็กๆก็ตาม
แต่มันก็ส่งผลกับตัวเราได้ในหลายๆรูปแบบ

เราจึงไม่คิดว่าเราเป็นคนจริงจังเกินไป หรอกนะ
แต่คนที่ต่อว่าเราต่างหากที่ หย่อนยาน เกินไป หรือเปล่า

วันเสาร์, กันยายน 05, 2552

อาจเพราะไม่เข้าใจดีพอ

วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนที่เคยสนิท
ซึ่งก็เป็นอะไรที่ทำให้คิดว่า ที่เราทำงานออกมาไม่ดีนี่
อาจจะเป็นเพราะว่า เรายังไม่รู้จักคำว่า มิตรภาพ หรือ สัมพันธภาพ ดีพอหรือป่าว

มันเป็นที่น่าแปลกใจ ที่คนๆหนึ่งซึ่งเคยคิดว่า
น่าจะเป็นคนที่เข้ากันได้ดีกับเราเกือบจะที่สุด
กลับกลายเป็นคนที่เราแทบจะไม่รู้จักเลยในวันหนึ่ง
ซึ่งการแก้ปัญหาในจุดนี่ อาจจะจบลงที่คำว่า ขอโทษ เพียงคำเดียว
เราก็ไม่ใช่คนโหดร้ายหรือมองโลกในแง่ลบไปซะหมด
ถึงแม้คำขอโทษที่ได้มานั้นอาจจะเป็นคำหลอกลวง
เราก็พร้อมจะเชื่อและให้โอกาสเสมอ

เพียงแต่ มันอยู่ที่ตัวเขา ว่าต้องการ โอกาสนั้นหรือไม่

ที่พูดมาณ.ที่นี้ไม่ได้อะไร เพียงแต่เป็นการนึกย้อนไป
มองปัญหาที่เกิดขึ้นกับงานของตัวเองว่า 
ที่มันไม่สามารถสื่อออกมาได้ดี อาจจะเพราะเหตุนี้ ก็เป็นได้

วันศุกร์, กันยายน 04, 2552

เน็ตพัง !!























พอเน็ตเสียก็รู้สึกว่าตัวเองจะทำอะไรที่ดูจะสร้างสรรค์ขึ้นมาได้บ้าง
รูปด้านบนนี้เป็นหนึ่งในรูปที่วาดเล่นตอนที่ไม่สามารถใช้เน็ตได้ 
เนื่องจาก เน็ตที่หอ พัง ตั้งแต่6โมงเช้าจนตี2 ก็ยังใช้ไม่ได้
จะทำงานที่ต้องอาศัยwebsite ก็ทำไม่ได้

เลยนั่งว่างอยู่พักนึง พอดีเปิดหน้า illus อยุ่
ก็เลยวาดรูปเล่นไปเพลินๆดีกว่า

วันพุธ, กันยายน 02, 2552

i am a thai graphic designer.




ขอโปรโมต แวป นึง

หมดเขตส่ง 10 กย. ศกนี้นะจ๊ะ

วันอังคาร, กันยายน 01, 2552

mini - anime 2

falling love

คิดงานไม่ออก นั่งเครียดๆ เลยหันไปลองวาดรูปเล่นคลายเครียด
เผื่อว่าจะคิดอะไรออกหรือมีอะไรดีๆแวปเข้ามาบ้าง
แต่ดันได้ mini anime มาชุดนึงซะงั้น

วันจันทร์, สิงหาคม 31, 2552

Thai PBS ช่วงศิลปะบันเทิง

วันนี้ได้ไปออกทีวีมา

ช่องไทยทีวี (thai PBS) ตื้นเต้นมากๆ แต่ไม่เท่าตอนไปเสนอหัวข้อครั้งแรก
แต่คนที่ติดต่อเรานั้นต้องไปหัดบอกทางไปสถานีใหม่
บอกให้บีไปรอตรงออฟฟิศ ซึ่งไม่ใช่ตรงจุดที่เขาจะถ่ายกัน
พอเจอยาม ยามก็พูดเหมือนเราจะเข้ามาขโมยของ อะไรงี้ 
เพราะว่ามายืนด้อมๆมองๆ อยู่นาน
พอเล่าให้ฟังเค้าก็คิดว่าน่าจะเป็นอีกทีและพามาส่งที่ห้องถ่ายข่าว
พอถึงก็โดนจับไป "ซับหน้า" ซึ่งแถวบ้านเรียกว่า โป๊ะหนาๆ
แต่พี่เค้าก็แต่งสวยแหละ และเข้าใจว่าที่ต้องแต่งหนาๆ เพราะแสงในห้องส่งมันแรง

พอถึงเวลาจะออกอากาศพี่ผู้ประกาศก็เอาสคริปมาให้อ่าน
และพอ 3 2 1 เริ่ม หัวใจแทบจะหล่นไปอยุ่ตาตุ่ม
มืออยู่ไม่สุข และทำหน้าเอ๋อ เหวอ ออกอากาศไป - -''
แต่ก็ทำให้รู้ว่า พี่ผู้ประกาศข่าวเก่งมากๆ
คอยช่วยเราตลอด เวลาเรากำลังจะตอบออกนอกเรื่อง
แต่ถ้าจะให้ดีควรจะถามตาม สคริปนะคะ พี่ T-T
ถามนอกสคริปแล้วแทบช๊อค  555

จากการไปออกทีวีครั้งนี้ ไม่ได้บอกเพื่อนๆเลย
แต่ก็รู้กันจนได้ 5555
สำหรับคนที่บอกก็มีแค่ พ่อแม่ และ นน
แต่จากที่ไปบ้านนนมาทำให้รู้ว่า ตอนนี้ดังในหมู่ญาติไปแล้ว
เพราะว่าแม่นนโทรไปปลุกญาติขึ้นมาดูกันเกือบทุกคน

สรุปแล้วก็ สนุกดี แต่ตื่นเช้าไปหน่อย 555


วันศุกร์, สิงหาคม 28, 2552

ความคาดหมายของบางสิ่ง


บางครั้ง เราก็ไม่สามารถทำตามความต้องการของเราได้เสมอไป

ความคาดหมายเป็นเพียงสิ่งที่ปูไว้ให้เราเดินตาม

เพียงแต่บางครั้ง ทางที่ปูไว้ก็อาจจะมีหลุมที่ทำให้เราต้องตก

หรือเปลี่ยนเส้นทางในการดำเนินชีวิตต่อไป .​..... 

วันจันทร์, สิงหาคม 24, 2552

ห้องน้ำ กับ รถไฟฟ้าใต้ดิน

เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ไปกิน เนื้อย่างร้านไจแอนท์มา
แล้วก็กำลังจะกลับหอ อยู่ๆพอนั่งแท๊กซี่ไปถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน
ก็เกิดอาการปวดท้องแบบกะทันหันขึ้น 
เลยเดินไปหาพี่พนักงานประจำช่องขายตั๋ว
เขาก็ดูจะเป็นห่วงดี และอยากจะช่วยเหลือ 
เพียงแต่ว่า การจะเข้าห้องน้ำภายในสถานีรถไฟฟ้านี่
ดูจะเป็นเรื่องยากลำบากอยู่พอตัว
เพราะว่า พี่เขาต้อง วอ ไปหา พนักงานอีกคน อีกคน และอีกคน
ถ้าเกิดว่าเป็นอาการท้องเสีย บี คงต้องกลายเป็นที่จดจำไปอีกนาน
ซึ่งพอได้คนที่เค้ามีกุญแจ ไอเราก็นึกว่าจะได้เข้าแล้ว
ปรากฏว่าต้องเดินอีกไกลพอสมควร
ไปยังโซนที่เป็นเขตก่อสร้างภายในโครงการของรถไฟฟ้าใต้ดิน
พอได้เข้าห้องน้ำปุ๊บ เกือบจะรู้สึกดีแล้ว
เพียงแต่ว่า พี่หนักงานเขายืนเฝ้าอยู่นี่สิ
แล้วแบบว่า อืออ จะฟังเสียงชั้นปล่อยหรือไงกันน้า
จะปล่อยก็กล้าๆกลัวๆ ว่าจะดังไปอะป่าว
ปรากฏว่า เอา พอ เดินทางได้ ดีกว่า
ให้ทำใจสบายเอาให้เต็มที่คงไม่ใช่วิสัย - -''

หากทางสถานีรถไฟฟ้าทำห้องน้ำสาธารณะ
ที่อยู่ภายในสถานีก็คงจะไม่ต้องเกิดเรื่องประมาณนี้ขึ้น
อาจจะเป็นห้องน้ำที่ต้องออกตั๋วโดยสารเข้าไปก่อน
ถึงจะใช้ได้ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

เป็นอีกวันที่ได้เจอประสบการณ์น่าประทับใจ? 

วันอาทิตย์, สิงหาคม 23, 2552

อิทธิพล - การเลียนแบบ

วันนี้ได้นั่งดูงานและหาreferenceงาน
ตามแนวconcept ก็พบว่า พอดูไปสักพัก
เราก็เริ่มจะติดแนวภาพที่เห็นมาอยู่พอสมควร
ก็กลัวว่าจะกลายเป็นเลียนแบบงานที่ดูรึป่าว
แต่ก็พยายามที่จะเอาแค่กลิ่นที่ได้สัมผัสมาเท่านั้น

ในความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่าการดูแล้วได้อิทธิพลมาไม่ใช่เรื่องผิด
เพียงแต่ว่าต้องปรับใช้ให้เป็นตัวเรา หรือให้เป็นงานของเราจริงๆให้ได้
ไม่เช่นนั้นงานที่ทำออกมา ก็ไม่ต่างอะไรไปกับการเลียนแบบ

หรือเป็นเพราะว่า คนไทย มีเชื้อแห่งการเลียนแบบอยู่ในตัวทุกคน
จึงทำให้สิ่งที่อยู่รอบตัวเราในทุกๆแห่งหนมีแต่การเลียนแบบ
หรือเป็นเพราะคนยุคแรกๆที่ทำตัวเลียนแบบต่างชาติ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัว การนำสิ่งของเข้ามาใช้
ทำให้พฤติกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ และซึมลึกเข้าสู่ตัวเรากันแน่

วันเสาร์, สิงหาคม 22, 2552

คาดหวัง

ความคาดหวัง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน และทุกโอกาส
ซึ่งสำหรับเราแล้วมันเป็นสิ่งที่ทำให้บีรู้สึกกดดัน
ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวัง จาก พ่อแม่ อาจารย์ หรือเพื่อนๆ
ในที่นี่ไม่ได้หมายถึง เขาเหล่านี้จะมาบอกกันตรงๆ
แต่มันมีความรู้สึกที่ส่งมาจนรู้สึกได้อยู่
เช่น ประโยคที่ว่า บียังไงๆก็ทำได้อยู่แล้ว หรือ ถ้าบีทำไม่ได้แล้วใครจะทำได้
มันทำให้บีบางทีก็รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องพยายามเพื่อให้เกิดผล
แต่เพราะว่าไม่อยากให้ทั้งตัวเองและคนอื่นผิดหวัง
จึงพยายามและทุ่มเทสุดชีวิตในการทำสิ่งต่างๆ
หากไม่ได้ดังหวังมีแต่ตัวเราหรือเปล่าที่มานั่งน้ำตาตกใน

แต่ความทุ่มเทและพยายามเหล่านั้นก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง
มันทำให้เราขยัน มีความรับผิดชอบและพยายามที่จะทำสิ่งต่างๆต่อไป

ดังนั้นในเรื่องที่เขียนๆมานี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า
ความคาดหวังไม่ดี นะ มัน ดี เลยทีเดียวในการผลักดันเราไปข้างหน้า
แต่ก็อย่ามากเกินไปอย่างบีเลย 55555

วันศุกร์, สิงหาคม 21, 2552

ต่อมความอยาก

วันนี้ไปที่ฟิวเจอร์รังสิตมา
เพราะว่าต้องไปอัดรูป วิชาCD

ขณะกำลังเดินทางไปนั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามา
บอกว่า "บี มีเทศกาลขนมหวานที่ฟิว"
โหย  ต่อมความอยากนี้ทำงานเลย
ขยันเดินจากเมเจอร์มาฟิวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ถึงแม้จะจน ถึงขนาดไม่มีตังจะกินข้าว
ต่อมความอยาก นี้ ก็ยังไม่รู้สึก ถึงความลำบากข้างหน้า
แถมยังทำงานหนักขึ้นเมื่อไปถึงที่

ซึ่งการจัดการกับความอยากได้นี่ช่างลำบากจริงๆนั้นแหละ
มันเหมือนมีคนเอาอะไรมาบังให้เรามองไม่เห็น
สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ ทั้งๆที่เราเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วแท้ๆ
เฮ้อออ มันจะเป็นแบบนี้กับคนอื่นบ้างไหมหนอ
ช่วงนี้เราคิดว่า เรา สามารถจัดการกับต่อมความอยากนี้ได้ดีขึ้นแล้ว
สำหรับเรื่องของการซื้อโดยไม่จำเป็น (พวกเสื้อผ้า อะไรงี้)
แต่สำหรับเรื่องของ ของกิน แล้ว มันจัดการได้ยากซะจริงๆ

Ps. สรุป ซื้อเค้กมา 2 ชิ้น
 

วันพุธ, สิงหาคม 19, 2552

เกาหลี

วันนี้ได้ไปกินอาหารเกาหลีมา 
ซึ่งสำหรับเราแล้ว เป็นอาหารที่เราแทบไม่ถนัด
เพราะว่าจะมีผักเป็นส่วนประกอบหลัก
แล้วคือ บี = ไม่กินผัก และ ไม่กินเผ็ด
อาหารเกาหลี = ผักเพียบ และ เผ็ดพอตัว (สำหรับเรา)
ดูจะเป็นสมการที่ไม่เข้ากันอย่างแรง

แต่พอได้ลองเสี่ยงชีวิต(ทางการเงิน)กินดู 
เอ้ยย ก็ ok พอได้  ถึงแม้ว่าจะต้องเขียผักที่ชิ้นโตๆออกบ้างก็เหอะ
แต่ชอบเมนูความผัดกิมจิเบคอนมาก
เพราะว่ามันหั่นผักได้ละเอียดยิบมากๆ แล้วแครอทก็นุ่มด้วย
ทำให้เรากินได้ง่ายๆ ไม่รุ้สึกถึงความเปนผักหรือกลิ่นเหม็นเขียวเท่าไหร่
อีกเมนูที่ชอบ คือ กะทะร้อน 
เพราะว่าเนื้อนุ่มอร่อยมาก จริงอันนี้ต้องกินกับผักสด
แต่บีรับไม่ไหวจริงๆ เลยกินกับข้าวเเทน

คือจริงๆ ช่วงนี้ก็พยายามฝึกกินผักและกินเผ็ดอยู่
แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ 
ถ้าเป็นผักต้มหรือผักที่เอามาหั่นเล็กๆอะกินได้อยู่
แต่ผักสด นี่ ทำใจไม่ได้จริงๆ 
แต่ต่อไปจะพยายาม !!!

ปล. วันนั้นกินไปตั้ง 2 จานแหนะ

วันอาทิตย์, สิงหาคม 16, 2552

ร้อนใจ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ได้ข่าวจากพี่เบลว่าเราได้ลงหนังสือเล่มหนึ่ง
แบบไม่รู้ตัว แถมเปนรูปเดียวๆด้วย 

ก็ทำให้รู้สึกตื้นเต้นและอยากได้มาครอบครอง
แต่ไม่ว่าหายังไงก็หาไม่เจอ
เพราะว่ามันหมดและยังไม่เข้ามายังรังสิต
ทำให้รู้สึกว่าเวลาตามหาของที่ต้องการนี้
มันมักจะชอบเล่นซ่อนแอบกับเราอยู่เสมอๆ
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

หรือเป็นเพราะว่าความร้อนใจของเรา
ทำให้เราสังเกตและมองไม่ถี่ถ้วน จนมองข้ามสิ่งที่ตามหาไป

และความร้อนใจนี้ทำให้เกิดความเร่งรีบขึ้น
ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ในชีวิตเราไปหลายอย่างใช่หรือไม่

วันอังคาร, สิงหาคม 11, 2552

เซ็ง

เบื่อตัวเองที่เป็นหวัดได้ตลอดเวลา

จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่หวัดหรอกนะ

เปนแค่ อาการแพ้อากาศ

แต่ที่น่ารำคาญ ก็คือ มันจะเป็นทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน
โดยมีน้ำมูกไหลออกมาตลอดเวลา
หายใจไม่ออกเพราะจมูกตัน
อย่างหนักสุดๆก็เจ็บคอเพราะร้อนใน


เดียวๆมาเดียวๆหาย

ช่างน่าเบื่อจริงๆ

วันอาทิตย์, สิงหาคม 09, 2552

shopping !!

วันนี้ไป เจเจ มา 

ตอนแรกกะว่าจะไม่ซื้อเยอะ
เพราะว่าไม่มีตัง
กะว่าเดินๆดูก็พอ 

โดยมีความตั้งใจหลักว่า 
จะซื้อเสื้อยืด สัก 2 ตัว กางเกงของสั้นสีดำ 1 ตัว
และถ้ามีโอกาสอยากได้บูทแบบพับเตี้ยๆสักคู่

เดินๆไปในตอนแรกดุราวกับว่าจะทำตามเป้าหมายได้
ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งเจอร้านเสื้อยิดที่ต้องการ
เข้าไปเลือกสี ประกอบกับแรงยุ จากนน ทำให้ได้มา 3 ตัว 250 บาท
เดินๆต่อไปอีกเรื่อยๆก็ยังไม่ได้อะไรเลย 
ขนาดเสื้อที่นนบอกว่าสวยและชอบมาก อยากให้บีใส่
เราก็ไม่เสื้อตามคำยุยงและส่งเสริมอันแรงกล้า

แต่พอกะว่าจะกลับเท่านั้นแหละ เอาวะ ซอยนี้ยังไม่เคยเดินเลย
เดินไปได้สักพัก พบกับ "นาทีทอง เสื้อยืดตัวละ 50 บาท"
โดนไป 3 ตัว (เอ๊ะได้ข่าวว่า เกินเป้าหมายไปตั้งแต่ที่ซื้อตอนแรกแล้วนะ)
เดินไปอีกนิด ได้ชุด+เสื้อยืดมาอีก อย่างละ 1  ตัว 
รวมแล้วเบ็ดเสร็จ หมดไป 1080 บาท (รวมค่ากินค่าน้ำและจุกจิกและค่ารถ)

อือออออ กลับบ้านอย่างมีความสุขแบบกระเป๋าฟีบๆอีกครั้ง
(อาทิตย์นี้กินแกลบทั้งอาทิตย์อีกแล้วสินะ)

วันเสาร์, สิงหาคม 08, 2552

เครียด

การที่จะพยายามบอกสิ่งถึงความหมายของสองสิ่ง
ในรูปแบบของอีกสิ่งหนึ่งโดยให้มีการคงอยู่ของสิ่งแรก
อยู่อย่างชัดเจนด้วยนั้น ช่างน่าลำบากใจจริงๆ

มันคล้ายๆกับว่า ถ้าจะทำนั้นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ว่าจะเลือกให้สิ่งใดสื่อออกมาเป็นพิเศษ

เพราะเวลาที่ตั้งใจไปในทางใดทางหนึ่ง
ความหมายแฝงที่ตั้งใจอีกอย่างก็จะจางหายไป
จะทำยังไงดีให้ไม่เกิดปัญหานี้


เราก็ไม่รู้เหมือนกัน

เพราะก็เป็นอยู่ ช่างน่าปวดหัวและกลุ้มใจ

ตอนนี้พยายามที่จะคิดแล้วคิดอีก คิดๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอเริ่มคิดออกมาเปนรูปเป็นร่าง 
ก็เริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ตัวเองคิดนั้น

มันใช่แน่จริงๆหรอ

กังวลไปซะทุกเรื่องเลยทีเดียว

วันจันทร์, สิงหาคม 03, 2552

กั้นกลาง

วันนี้นั่งรถไฟฟ้าจะไปจตุจักร
ซึ่งเป็นเวลาเย็นแล้วคนก็เยอะมาก
สักพักมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งขึ้นมา เป็นผู้หญิงหมดเลย 3 คน
แล้วพอถึงสถานีอนุสาวรีย์คนก็ลงเยอะจนมีที่นั่งพอ
ให้สามสาวนั่งได้ แต่ว่าต้องนั่งแยกกัน
ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเธอ
คนนึงนั่งไกลออกไปเกินกว่าจะคุยกันได้
แต่อีกสองคนนั่งใกล้กันโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งกั้นกลางอยู่

ซึ่งถ้าเป็นปกติ โดยส่วนใหญ่(รวมถึงตัวบีเอง)
ก็จะเขยิบให้พวกเขานั่งใกล้กันจะได้คุยกันสะดวก
แต่เธอคนนี้ไม่ เธอทนนั่งให้มีบทสนทนาที่ฟังไม่ออก
ลอยข้ามหัวไปข้ามหัวมา จนสุดสถานีจตุจักร
ก็เลยรู้สึกตลกดีที่เธอคนนี้เหมือนกลายเป็นเพื่อน
ของชาวต่างชาติกลุ่มนี้ไปซะแล้ว เพราะจากมุมที่เห็นนั้น
เธอดูเหมือนจะเปนเพื่อนสาวชาวไทยที่พยายามพา
สาวๆต่างชาตินี่ไปเที่ยวยังไงอย่างงั้น 
(ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งทำหน้าตาซังกะตายก็เถอะ)

วันอาทิตย์, สิงหาคม 02, 2552

กังวล และ กล้าหาญ

ช่วงนี้มีแต่ความกังวล และ ความไม่มั่นใจ
เพราะว่าเป็นช่วงที่ต้องเตรียมส่งหัวข้อทีสิดครั้งที่2
เนื้อหาและข้อมูลที่มีนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่พร้อม
แต่ว่าสิ่งที่เราคิดถึงมันนั้นอาจจะไม่เหมือนกับสิ่งที่กรรมการเห็น
แล้วการเห็นต่างกันจะทำให้เราเป็นเช่นไร
ความคิดเช่นนี้ไหลเวียนอยู่ในหัวตลอด 2 อาทิตย์
ความมั่นใจที่มีเริ่มหดหาย
กำลังใจเริ่มลดลงตามลำดับ

เช่นเดียวกับงานวิชา CD5 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความไม่มั่นใจ
ว่าสิ่งที่เราคิดมันจะไปถึงความคิดของอาจารย์บ้างรึป่าว
มันจะตื้นไปไหม หรือว่า จะคิดไปเองรึป่าว

แต่ก็นะ มีคนเขาพูดไว้ว่า 

การจะออกแบบอะไรสักอย่างต้องใช้ความกล้าหาญ

ทำให้เราคิดได้นิดหน่อยว่า
จะต้องกล้าเสนอไปในสิ่งที่เราอยากทำ
ถึงมันอาจจะยังไม่แน่นพอ แต่ก็เปนสิ่งที่เราอยากทำ
และสามารถสนุกและใช้ชีวิตอยู่ไปกับมันได้
คงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า 
ถึงแม้จะโดนวิจารณ์หรือต้องผิดหวังเสียใจ
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
แต่จะเป็นการเพิ่มประสบการณ์และ
ทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้เสียมากกว่า

วันเสาร์, สิงหาคม 01, 2552

โตไวกันจัง

วันนี้ไปเดินสยาม แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้รู้สึกคนเยอะจริงๆ
เดินแทบจะชนกันอยู่และ 
รู้สึกอึดอัดและรำคาญ ไม่รู้ทำไม

แต่ที่รู้สึกได้เลย คือ เด็กสมัยนี้โตไวจริงๆ
ทั้งเรื่องที่พูดคุยกัน หรือจะเป็นการแต่งตัว 
มานั่งคิดๆ สมัยเราอยู่มัธยม ยังไม่คุยเรื่องแบบนี้เลย
หรือแต่งตัว แต่งหน้าก็ยังไม่จัดจ้านเท่าเด็กสมัยนี้

จริงๆแล้วการที่รีบโตเกินไป
อาจจะทำให้เราหลงลืมอะไรบางอย่างไปด้วย
ความรู้สึกที่ไร้เดียงสา น่าเอ็นดูหายไปอย่างรวดเร็ว
เดียวนี้เหมือนกับว่าความอ่อนต่อโลก
กลายเป็นสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์ของเด็กไปซะแล้ว
หากว่ารู้มาก จะได้เปรียบกว่า 
จริงๆเรื่องนี้ก็ถูกในส่วนหนึ่ง
รู้มาก ก็จะต้องดีกว่าอยู่แล้ว 
แต่ว่า บางครั้งรู้ให้พอเหมาะพอสม
อาจจะทำให้ได้รู้จริงมากกว่า

วันศุกร์, กรกฎาคม 31, 2552

Photo Shoot

วันนี้ได้ไปถ่ายรูปกันในสตูดิโอ
สนุกมากกกกกก

เป็นอะไรที่อยากทำและชอบที่จะได้ทำ
ก่อนหน้าวันที่จะถ่ายก็คิดจินตนาการ
ว่าจะเอาชุดไหนกับชุดไหนดี
วิญญาณสไตลิสเข้าสิงกระทันหัน
มันก็ดีนะ เวลามีอะไรแบบนี้เข้ามาให้ทำ
ดูเราจะเต็มที่กับมันมากๆ 
ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้จะให้อะไรเรา ไม่มีคนจ้าง ไม่มีคนสั่ง
จริงๆแล้วที่เราทำมันออกมาได้ดี (คิดว่าดีน้าาา) 
อาจจะเพราะว่าเราทำอย่างไม่มีแรงกดดันก็ได้ 
ไม่มีความกังวล ว่า คนโน่น คนนี้จะชอบสิ่งที่เราทำรึเปล่า
มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสิน ว่า ชอบ หรือ ไม่

ทำให้คิดว่าบางครั้ง 

การทำตามใจตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป 

ปล. เอารูปมาอวดด้วย










วันจันทร์, กรกฎาคม 27, 2552

Error

วันนี้ได้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน
กะว่าจะไปลงสถานีลาดพร้าว
แต่เพราะว่านั่งคิดอะไรก็ไม่รู้ไปๆมาๆ
สักพักเหมือนเห็นว่ารถไฟฟ้ามันจอดนาน
ก็เลยจุกคิดว่า เฮ้ย ถึงแล้วแน่ๆเลย
ก้เลยรีบลงจากรถไฟฟ้า แต่รถมันก็ยังจอดอยู่
ซึ่งพอลงมาก็รู้แล้วล่ะ ว่ามันยังไม่ถึง
แต่ด้วยความว่าฟอร์มจัด 
ก็เลยขึ้นบันไดเลื่อนไปข้างบนก่อน
แล้วพอรถไฟคันเดิมไปแล้วก็ลงมารอคันต่อไป

แล้วพอจะนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่ออฟฟิศ
ก็เกิดอาการเครื่องช๊อค แบบจำไม่ได้ว่า
ชื่อสถานที่ๆจะไปชื่ออะไร แต่พอเห็นหน้าพี่มอไซค์ก็นึกได้

แล้วพอถึงที่อาคารแล้วเดินไปขึ้นลิฟ
พอดีมีคนขึ้นมาพร้อมกันด้วย ก็เลยยืนเก็บ iPod
เลยลืมไปว่าต้องกดลิฟ รู้สึกตัวอีกที 
ตอนนี้ลิฟมันเลยขึ้นไปชั้น 12 แล้ว
เลยต้องกดลงมาใหม่อีกรอบ

วันนี้รู้สึกว่าตัวเองระบบสั่งงาน error ยังไงไม่รู้
อาจจะเพราะว่าคิดอะไรสักอย่างอยู่
จนระบบทำงานส่วนอื่นๆปิดไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว
มันก็เป็นเรื่องขำๆที่เกิดขึ้นได้บางจังหวะ
แต่เกิดบ่อยๆก็ทำเอาลำบากเหมือนกันนะเนี่ย

วันอาทิตย์, กรกฎาคม 26, 2552

ต้องการยาแก้โดย ด่วน


เหนื่อย และ เบื่อ 
กับการอ่านหนังสือมากมาย
ที่ทำให้เหนื่อยและเบื่อไวกว่าปกติ
อาจจะเพราะว่ามันไม่ใช่หนังสือภาษาบ้านเกิด

แล้วจะทำยังไงดีกับปัญหาอย่างนี้
ถึงจะพยายามเท่าไหร่ก็เข้าใจได้แบบไม่100%
ที่ทำให้เข้าใจได้ เห็นจะเป็นเพราะ รูปภาพประกอบ
แบบนี้จะทำยังไงดีถ้าต้องเอาไปนำเสนอ

อาการขี้เกียจที่ตามมาทำให้อาการนี้ยิ่งแย่ลง
ตอนนี้กำลังผลักดันตัวเองอยู่
ถ้าเบื่ออ่านก็ว่าจะไปทำงานอย่างอื่นแทน
ตอนนี้อาการเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่คงตัว
หากใครพบเห็นยารักษาอาการขี้เกียจ 
หรือ อาการขาดความกระตือรือร้น 
โปรดติดต่อ ด่วน !!!

วันเสาร์, กรกฎาคม 25, 2552

MSN

วันนี้ได้สอน แม่ เล่น msn 
เพราะเห็นว่าแม่บ่นอยากเล่นบ้างมาหลายวันแล้ว
ที่อยากเล่น รู้สึกจะเพราะว่าเพื่อนชวน
วันนี้ว่างๆก็เลยถือโอกาสสอนเล่นสักหน่อย
ปรากฏว่าต้อง จูน กันอยู่สักพักเหมือนกัน
เพราะต้องใช้ภาษาเค้าในการอธิบาย
ซึ่งพวกศัพท์ที่เราใช้ๆกัน เค้าก็จะไม่เข้าใจ
แล้วพอสมัครและสอนวิธีการเข้าmsn แล้ว
พอจะ add เพื่อน ปรากฏว่า เพื่อนเค้ายังไม่มีใครออกเลย
เค้าก็เลยสงสัยว่าจะคุยยังไง
เราก็บอกว่านี่ "เพื่อนๆแม่ยังไม่ออนไลท์เลยยังคุยไม่ได้ "
แต่แม่เค้าเข้าใจว่า เค้าอะออนไลท์แล้ว คุยได้สิ
เลยต้องให้ add อีเมล์เราด้วย จะได้อธิบายกันง่ายขึ้น
คราวนี้พอเข้าเรื่องออนไลท์ ออฟไลท์แล้ว 
มาสงสัยกันต่อเรื่อง อยากมีรูปโชว์ แบบบี บ้างอะ
เราก็เลยเดินไปอธิบายที่ห้องเค้า
แต่เค้าดูจะอยากให้เราพิมพ์คุยกับเค้าผ่าน msn มากกว่า

ก็เลยรู้สึกว่า ตอนพ่อแม่เราสอนเราอ่าน ก.ไก่
มันจะคล้ายความรู้สึกเรา ตอนสอนเค้าเล่น msn รึเปล่านะ
 

วันศุกร์, กรกฎาคม 24, 2552

เลือด


วันนี้ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากๆ
คือ การได้กิน เลือด กุ้งมังกร !!!
ขอเน้นตรงคำว่า เลือด นะ ไม่ใช่กุ้งมังกร
ใครจะไปคิดว่าจะเอามากินได้
แถมเลือกมันยังไม่ใช่สีแดง เขียว หรือน้ำเงิน
แต่เป็นสีดำ !!
วิธีกินก็คือ นำเจ้าเลือดนี้้ใส่สไปร์เย็นๆ
รสชาติ ถ้าไม่นับรสสไปร์ก็คือ เค็ม !!
เลือดกุ้งมังกรมี รสเค็ม 
และพอมันอยู่ในสไปร์มันก็แข็งตัวคล้ายเยลลี่
ตอนแรกก็แหยงๆอยู่เหมือนกัน 
แต่กินไปก็อร่อยดี แต่ไม่กล้ากินเยอะ เกรงใจ 5555

คิดๆดูแล้วจะเลือดกุ้งมังกรหรือเลือดคนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
รสชาติก็เค็มเหมือนกัน 
โดนความเย็นก็แข็งตัวเหมือนกัน (แต่ของเราอาจจะไม่เป็นเยลลี่?)
ดังนั้นเลือดของสัตว์ชนิดอื่นๆก็คงไม่น่าต่างกันมาก

แล้วเราเอาอะไรมาตัดสินคุณค่าของสิ่งเหล่านี้กันแน่. ​. ​.

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 23, 2552

เกิด-ตาย

วันนี้ไปต่ออายุบัตรประชาชนมา
(พูดว่าต่ออายุบัตร แล้วรู้สึกแก่ยังไงไม่รู้)
ตอนแรกก็ไปแบบว่า ยังไงๆ ก็แป๊ปเดียวอยู่แล้ว
ไม่เห็นต้องรีบไปแต่เช้าเลย
แต่ปรากฏว่า คนที่ไปทำบัตรประชาชรเยอะมาก
จนทำให้สงสัยว่า 
วันๆหนึ่งมีคนที่บัตรหมดอายุขนาดนี้เลยหรือ
ไม่รวมคนที่บัตรหายแล้วมาทำใหม่อีก
ทำให้รู้สึกว่า ประชากรบนโลกนี้เกิดมาเยอะจนล้นเกินไปรึเปล่า
ทั้งคนเกิดใหม่ คนเกิดมาสักพัก หรือ คนที่เกิดมานานแล้ว
ทุกคนต่างไม่ยอมจากโลกนี้ไปสักที
ก็แปลกที่คนเราส่วนใหญ่เกิดมาแล้ว
ต่างก็กลัวที่จะตายจากกลับไปสู่จุดที่มา
อาจจะเป็นเพราะว่าเราหลงใหลในสีสันของโลกนี้
มากจนเกินไปหรือเปล่า จนทำให้ลืมมองย้อนกลับไปจุดเดิมที่เรามา
ไม่ได้เป็นคนปลงชีวิตหรอกนะ ถึงพูดแบบนี้
เพียงแต่พูดไปตามที่คิด เพราะเราเองก็ไม่คิดอยากตายในตอนนี้
แต่ก็ไม่คิดว่าความตายเป็นสิ่งน่ากลัว
แต่คิดว่ามันก็เหมือนเพื่อนของเรา 
เพราะมันคงจะอยู่กับเราไปตลอดจนกว่าเราจะตาย

ปล.แต่วันนี้รู้สึกดีที่ได้ทำบัตรใหม่ 55555

วันพุธ, กรกฎาคม 22, 2552

โปรโมท อีกครั้ง !!

I am a Thai Graphic Designer.
(ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกไทย)
คือโครงการที่ต้องการให้นักออกแบบไทย
ออกมาแสดงตัวตนของการมีอยู่ของอาชีพนี้
ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจเลยทีเดียว

อีกทั้งการเข้าไปเยี่ยมชม website 
ก็ทำให้เราได้เห็นผลงานของนักออกแบบไทย
ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก !! อย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน
จึงอยากจะขอประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนๆที่อาจจะสนใจ
เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย เพื่อนำเสนอตัวเองออกสู่โลกกว้าง 555
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย 
เพราะอาจจะมีคนมาสนใจในมุมมองหรือฝีมือของเราก็เป็นได้

และจะมีการจัดนิทรรศการ ระหว่างวันที่ 3 -11 ตุลาคม 2552 
ณ แกรนด์ฮอล์ สยามดิสคัพเวอรี่ 
หมดเขตส่งผลงานวันที่ 10 กันยายน !! 
ผลงานที่ส่งเข้ามาจะได้ร่วมจัดแสดงด้วยทุกผลงาน !! 

อ๊ะๆ ตัวอย่าง!!










หากสนใจเข้าร่วมโครงการ เข้าไปดูได้เลยที่
http://www.iamathaigraphicdesigner.com
และสามารถส่งผลงานเข้าร่วมได้
โดยการออกแบบคำว่า i am a thai graphic designer
หรือ ฉันเป็นนักออกแบบกราฟิกไทย ก็ได้
แล้วถ่ายรูปคู่ผลงานส่งมาที่
practicalstudio@gmail.com

ซึ่งผลงานที่เข้าร่วมโครงการ
ขอให้อยู่ในSize A4 มีความละเอียด 300 dpi และเป็นแนวนอน 

ส่งกันเข้ามาเยอะๆนะ ^^

วันอังคาร, กรกฎาคม 21, 2552

เหนื่อยมากก

เมื่อสองวันที่ผ่านมานั่งทำวิชาไทโป
เพื่อจะส่งวันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่สาหัสมาก
ทำให้นึกย้อนไปสมัยเรียน ปี 2-3
ว่าเราก็ทำงานแบบข้ามวันข้ามคืนมาเยอะ
แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าตอนนี้

เพราะว่าอะไร

คิดว่าเพราะมันมีกระบวนการคิดและทำที่ซับซ้อนมากขึ้น
บวกกับการที่เราไม่ได้ทำงานแบบนี้ต่อเนื่องเท่าปีก่อนๆ
แต่มันก็ทำให้เราได้งานที่ออกมาดี
ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ดีในสายตาคนอื่น 
แต่มันก็ทำให้ตัวเราเองภูมิใจ

วันเสาร์, กรกฎาคม 18, 2552

ปากจู๋

มีคนบอกมาหลายครั้งแล้วว่า
การทำท่าปากจู๋ของเรามันยากมาก
ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่ามันยากยังไง
เพราะเราก็ทำได้เองแบบไม่ต้องหัดทำ

แต่พอเราสอนทุกคนที่อยากทำบ้าง
แต่ละคนก็จะบอกว่ายากเป็นส่วนใหญ่
อาจจะเป็นเพราะคนเราโดยออกแบบมาไม่เหมือนกัน
แต่ละคนก็จะมีสิ่งที่ทำได้และไม่ได้ต่างกันไป

การออกแบบทุกอย่างย่อมมีของจำกัดบางประการ
เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของมันเอง สำหรับเราคิดว่าอย่างนั้น
เพราะหาใส่เต็มทุกอย่าง ก็คงมีแต่สิ่งที่เต็มๆจนอึดอัด
และไร้ซึ่งเอกลักษณ์หรือความเป็นตัวเองของมัน
การที่จะมีขาดหรือเกินนั้น ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

วันศุกร์, กรกฎาคม 17, 2552

เวลา ?

เคยได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเวลา
ทำให้รู้สึกว่าเวลาเป็นแค่สิ่งที่เราอุปโรกขึ้นมา
เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน 
ไม่มีใครที่มีเวลาเท่ากัน
แต่ ปี เดือน วัน ชั่วโมง นาที เป็นสิ่งที่มาทำให้
เรารู้สึกว่า เวลานั้นมีจำกัดและเท่ากันสำหรับทุกคน

ทั้งเรื่องราวของความเหลื่อมซ้อนของกาลเวลา
ทำให้รู้สึกว่าเวลาไม่มีเส้นแบ่งกั้นทางกาลเวลา
เพราะหากว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีจำกัด
เวลาที่ผ่านไปแล้วก็ต้องหายไปไม่กลับมาอีก
ไม่มีการหวนคืน 
ความฝันเองก็เปนการเดินทางเส้นทางหนึ่งของเรา
มันอาจจะผ่านเราไปได้ทั้งอดีตและอนาคต
แต่เมื่อเราตื่นเราก็มักจะลืมมันไป
อาจจะจำได้ลางๆ เป็นเศษของความจำ
และเมื่อพบกับเหตุการณ์นั้นอีก
ก็จะรู้สึกเหมือนว่าเคยประสบสิ่งๆนั้นมาก่อน

ช่วงที่อ่านเรื่องราวของเวลา
ทำให้กลับมานั่งย้อนคิด ว่า 
จริงๆแล้ว หากเวลาไม่มีอยู่จริง
อะไรจะเป็นตัวแปรในการดำเนินไปของจักรวาล
ในเมื่อทุกอย่างสามารถที่จะก้าวผ่านกันไปมาหากันได้
การที่บางคนก้าวข้ามกฏนี้ไปได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพียงแต่การเห็นหรือรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน-หลัง
จะทำให้เราทนรับภาระนั้นได้มากแค่ไหนก็เท่านั้นเอง

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 16, 2552

เครียดเลยทีเดียว

ภาวะความเครียดเกิดขึ้นได้กับทุกคน
ถือว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนี้้ได้ส่งบทที่ 1 และข้อมูลในการทำทีสิด
แต่สิ่งที่อาจารย์ตอบกลับมา คือ 
บียังไม่มีความแน่นอน ยังไหลไปตามอาจารย์
อย่ากังวลมากเกินไป ให้เป็นตัวของตัวเอง
มันเป็นอะไรที่ จื๊ด มากๆ 
แบบเราก็มีความอยากจะทำอะไรอย่างเป็นตัวเอง
แต่เพราะความกังวลทั้งหลายที่มี
ทำให้คิดว่าการปรับตัวเองไปตามสถานการณ์ต่างๆ
คือ สิ่งที่ควรจะทำมากกว่า
แต่กลับกลายเป็นว่า การยึดมั่น 
ในของที่เรามีนั้นสำคัญกว่า
ทำให้เราเห็นชัดและรู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป
แต่ก็ทำให้เรารู้สึกเจ็บอยู่เหมือนกัน

วันนี้พูดไปก็เสียงสั่น น้ำตาจะไหล
แต่ก็ต้องอดทน เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเสียน้ำตา
มันถือว่าเป็นช่วงเวลาที่กดดันและเครียดมากๆ
ความรู้สึกหลายๆอย่างที่ก่อตัวขึ้นมากับคำพูดของอาจารย์
ทั้งความท้อถอยในสิ่งที่พยายามทำ
ความไม่เข้าใจกับการคาดหวังของอาจารย์
เราไม่ใช่คนเก่งเลย เพียงแต่พยายามที่จะเก่งเท่านั้น
แต่บางครั้งความพยายามของเราก็ทำให้รู้สึกเหนื่อย
เพราะมีความคาดหวังจากคนรอบข้างมากเกินไป
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไรพวกเขาหรอก 
ความเก่งกาจหรือพรสวรรค์นั้น เราไม่มีเหมือนบางคน
เรามีเพียงความพยายามที่จะไปต่อให้ได้เท่านั้น
เพราะความที่เป็นคนชอบเอาชนะก็แค่นั้นเอง

แต่ตอนนี้เราจะพยายามขยันให้มากขึ้น
มองให้กว้างขึ้น และเป็นตัวของตัวเอง 
นำสิ่งที่ตัวเองมีไปเสนอเพื่อให้คนอื่นคล้อยตามให้จงได้ !!!

วันพุธ, กรกฎาคม 15, 2552

แรง !!!

วันนี้ไปห้องสมุด เพราะจะหาหนังสือ
มาเป็นข้อมูลในการทำทีสิด
แต่กลับไปพบกับกองหนังสือกองโต
ที่ถูกนำออกมาจากชั้นหนังสือเกือบทั้งหมด
ซึ่งก็มีรุ่นน้องทั้งหลายค้นหนังสือจนเละ
ไม่เป็นกองตามหมวดอีกต่อไป

พอไปถามเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อไหร่จะจัดเข้าชั้น
เขาก็บอกว่า "อีก 2 วัน เพราะคนจัดไม่อยู่"
ไอเราก็ เฮ้ย จะบ้าหรอ แล้วคนจะหาหนังสือทำไง
จะไปค้นตามกองก็คงไม่ไหว เพราะหนังสือเยอะมาก
พอเดินไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่า 
จริงๆแล้ว เขาก็จัดเป็นกองตามหมวด
แต่ที่กลายเป็นกองรวมกันเป็นกองเดียวนั้น
เพราะ รุ่นน้อง นี่เอง
ทำหนังสือให้เละแล้วไม่พอ
มันยังเสียงดังกันอีก ซึ่งทำให้เรารำคาญขึ้นไปอีก
อยากจะเข้าไปด่าจริงๆว่า นี่มันห้องสมุดนะ 
เสียงดังไปไหมเอ้ย!!
 และก็รักหนังสือหน่อย ดูดิ ยับหมดแล้ว

ช่วงนี้มีคนบอกว่า เราแรง !! 5555 
เพราะวันก่อนก็ไปไล่ที่นั่งรุ่นน้อง
จริงๆก็ไม่ได้ไล่นะ แต่น้องเขานั่งกินที่เกิน
แบบไม่กะให้ใครนั่งด้วยเลย
มีกัน 5  คน มันนั่ง 2 โต๊ะยาว แล้วคุยกันข้ามโต๊ะ
แบบจะแยกนั่งทำไมวะ ก็ไปนั่งด้วยกันเซ่
ก็เลยบอกน้องเขาว่า "น้องคะ ไปนั่งรวมกันได้ไหมคะ"
"พี่จะได้ขอนั่งตรงนี้"
น้องเขาเลยลุกกันไปหมดเลย - -'' 

เราว่าเราไม่ได้แรง 
แค่ทำตามสิ่งที่ถูกต้องก็เท่านั้นเอง 


วันอังคาร, กรกฎาคม 14, 2552

แฟชั่น

แฟชั่น เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและมีความสำคัญ
มันเป็นตัวที่ทำให้เรารู้จักคัดสรรสิ่งต่างๆให้กับตัวเรา
มันบ่งบอกถึงสไตล์และรสนิยม
อาจเป็นเพราะว่าตัวเราชอบแต่งตัวและถ่ายรูป
จึงทำให้มีความสนใจเรื่องแฟชั่นมากกว่าคนอื่น
บางคนอาจจะไม่ชอบแต่งตัว เพราะรู้สึกว่ามันยุ่งยาก
แต่เรากลับรู้สึกสนุกที่ได้เอาชิ้นโน่นมาใส่ชิ้นนี้
อีกอย่างการที่เราใส่ใจกับการแต่งตัว
แสดงว่าเราได้ใส่ใจกับการออกไปข้างนอกแล้ว
ยิ่งถ้าได้มีโอกาสไปชอปปิ้งได้ชุดใหม่ๆมา
แล้วได้ใส่ออกไปที่สวยๆถ่ายรูปดีๆออกมา
ก็ทำให้รู้สึกดีไปอีกแบบ 55555
ไม่รู้ว่าจะมีคนรู้สึกแบบเราไหม 
แต่เราชอบที่เราได้เล่นกับมันอยู่ตลอดทุกเวลา
สุดท้ายนี้ก็เอารูปที่ชอบๆมาให้ดูกันอีก ^^


วันจันทร์, กรกฎาคม 13, 2552

ตื่น

เป๊ปซี่ คือ พลังงานการขับเคลื่อนของเรา
มันอาจจะฟังดูเว่อ แต่บางครั้งเวลาขาดมัน
ก็ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและไม่มีแรงเอาซะเลย

ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร ?

เพราะใน โค้กหรือเป็ปซี่ มีคาเฟอีนซึ่งทำให้เราตื่นตัว
หรือว่า
เพราะว่า มันเป็นความคิดไปเอง กันแน่


วันอาทิตย์, กรกฎาคม 12, 2552

ดนตรีก่อนสายฝน


วันนี้ขณะนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน
ได้เห็นกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์เล่นดนตรี
ร้องเพลงเต้นรำกันอย่างเมามันมากๆ
เสียงเพลงของพวกเขาดังมาก
จนสามารถแทรกเข้ามาภายในรถแท๊กซี่ได้
เหมือนกับว่าพวกเขาจะเล่นดนตรีท้าทายฝนที่กำลังจะตก

ดูแล้วก็ทำให้รู้สึกดี เหมือนกับว่า
ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ความสุข อยู่รอบตัวเราเสมอ
แม้มันจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ตาม

วันเสาร์, กรกฎาคม 11, 2552

:'(


ถ้าเหนื่อยเกินไป ก็คงต้องพักบ้าง

งั้นตอนนี้เราก็ต้องขอพักหน่อยแล้วกัน

วันศุกร์, กรกฎาคม 10, 2552

ศิลปิน แล้วยังไง

เมื่อวานนี้ขณะทำกิจกรรมกระจายใจอยู่นั้น
มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าพอใจเกิดขึ้น
กิจกรรมกระจายใจ คือ การนำสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ
ไปติดให้กับผู้มางานคอนเสิร์ต Love is Here
ซึ่งจุดที่ทีมงานจะรุมเข้าไปติดสติ๊กเกอร์อยู่ตรงทางเข้า
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
และทุกคนก็พอใจในการติดสติ๊กเกอร์นี้

แต่อยู่ๆก็มีชายร่างอ้วนเดินเข้ามา
และเมื่อพวกเราจะเข้าไปติดสติ๊กเกอร์ให้นั้น
เขาก็ผละตัวหนี พร้อมบอกว่า
"ไม่แปะๆ!! ผมเป็นศิลปิน!!"
ซึ่งเพื่อนเราบอกว่า เขาเป็นสมาชิกวงETC
ทำให้เราไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงต้องทำกิริยาแบบนี้ด้วย
เป็นศิลปินแล้วยังไง ต้องพิเศษกว่าคนอื่นหรอ
การเป็นคนดัง นั้นจะไม่มีใครสามารถแตะต้องได้เลยหรอ
การทำกิจกรรมร่วมกับคอนเสิร์ตที่ตัวเองมาแสดงนั้น
มันน่าจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ตัวเอง
มากกว่าการปฏิเสธอย่างหยิ่งผยอง

ศิลปินคนอื่นเขายังยอมรับและรู้สึกสนุกไปกับมันได้
แล้วทำไม คุณถึงทำไม่ได้ ?

การเป็น คนดัง ทำให้คนลืมตัวจนของตัวเองรึเปล่า
แล้วการลืมตัวตนของตัวเองนั้น
จะทำให้คุณภูมิใจในตัวเองได้แค่ไหนกัน ?

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 09, 2552

ความบันเทิงในความเงียบ


วันนี้ได้มีโอกาสไปงานคอนเสิร์ต
ที่คน หูดี ร่วมสนุกไปพร้อมกับคน หูหนวก
ประทับใจน้องๆจากมูลนิธิมากๆ
เพราะเขาดูมีความสุขและต้อนรับกับงานนี้ดีมากๆ
ถึงแม้จะไม่สามารถคุยกันได้รู้เรื่องร้อยเปอร์เซ็น
แต่ความรู้สึกที่มีให้กันนั้น คิดว่าส่งถึงแน่ๆ

การที่น้องๆเขารับรู้เสียงเพลงได้นั้น
เพราะแต่ละที่นั่งจะมีลูกโป่งอยู่ 
ซึ่งลูกโป่งจะรับเสียงและกลายเป็นแรงสั่นสะเทือน
ซึ่งจะมีจังหวะไปตามเสียงเพลง (เช่นพวกกลอง เบส เป็นต้น)
อีกทั้งหน้าเวทีก็จะมีจอฉายภาพ ซึ่งบรรยากาศอารมณ์
จังหวะ แสง สี หรือเหตุการณ์ไปด้วย 
ศิลปินเองก็พยายามที่จะสื่อสารด้วยภาษามือกับน้องๆ
โดยตอนท้ายงานจะมี พี่คิว วงฟลัว
มาร้องเพลง "เสียงแห่งความเงียบ"
โดยภาพที่ฉายขึ้นจอก็จะเป็นดารานักร้อง
มาทำภาษามือตามเพลงไปด้วย 
(ซึ่งตอนจบเป็นคุณอภิสิทธิ์ทำสัญลักษณ์ที่หมาวถึงคำว่ารัก)

เป็นกิจกรรมที่ดีและน่าจะเกิดขึ้นอีก 
เราไม่รูว่าบัตรเข้างานมันเท่าไหร่ 
แต่ก็รู้ว่าทุกคนยอมที่จะเสียเงิน
เพื่อที่จะมาหา ความสุข ไป
พร้อมกับการ ทำบุญ เสมอ

วันพุธ, กรกฎาคม 08, 2552

เงื่อนไข


เพิ่งรู้ว่าการเดินซื้อของให้คนๆหนึ่งซึ่งเป็นเพศตรงข้าม
นี่มันจะยากและตัดสินใจลำบากขนาดนี้
ขนาดที่คิดว่าให้เวลากับการเดินมากแล้ว
ยังรู้สึกว่าไม่พอและเวลาช่างผ่านไปไวจริงๆ

ที่เป็นอย่างนี้ เป็นเพราะว่าเราเรื่องมากกับการซื้อรึเปล่า
เลือกแล้วเลือกอีก เลือกแล้วเลือกอีก
อันนี้ไม่น่าจะชอบนะ อันนั้นไม่น่าจะได้ใช้เลย
อาจเป็นเพราะเราต้องการให้ผู้รับ
รู้สึกชอบกับสิ่งที่เราเลือกให้ มันคือความใส่ใจอย่างหนึ่ง
แต่หากกังวลมากเกินไปก็อาจจะทำให้รู้สึกผิดหวังได้
ถ้าเกิดเขาอาจจะชอบมันน้อยกว่าที่คาดหวัง

จริงๆการให้ของที่เราชอบเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเราได้ดี

อีกทางเลือกหนึ่งคือ ทำของขึ้นมาเองเลย !!
มีทั้งความตั้งใจและความรู้สึกของผู้ให้อยู่เต็มๆ

การที่เรากังวลมากมายว่า จะชอบหรือไม่ นั้น
จะมีมากน้อย ขึ้นอยู่กับผู้รับว่าเป็นใครด้วยรึเปล่า
สำหรับเราแล้ว คิดว่า ใช่
มันเป็นปัจจัยหลักเลยที่เดียว
กับการเลือกสรรบางอย่างเพื่อบางคน
ของบางอย่างอาจจะใช่ สำหรับบางคน 
แต่ก็ไม่สำหรับบางคน

ดังนั้นการตั้งเงื่อนไขในการซื้อของที่มีขึ้นมานั้น
เราคิดว่าจริงๆแล้วมันก็เพื่อตัว คนรับ และ ตัวเรา

วันอังคาร, กรกฎาคม 07, 2552

ทำบุญแล้วได้บาป


วันนี้เดินอยู่สยามแถวๆทางขึ้นรถไฟฟ้าBTS
แล้วเจอป้าแก่ๆยืนแจกใบปลิวอยู่
ปกติเป็นคนไม่ค่อยรับพวกใบปลิวเท่าไหร่
แต่เห็นว่า "อะๆ ช่วยๆกัน เขาจะได้ไปพัก" 
รับไปเท่านั้นแหละ มีเสียงตามมาว่า
" 20 บาท จ๊ะ ช่วยๆทำบุญหน่อยนะ "
ทำเอาตกใจ !!! 
แบบ เฮ้ยยย เดียวนี้หากินกันแบบนี้แล้วหรอ
20 บาทมันก็ให้ได้หรอกนะ แต่ติดใจที่วิธีการ
ไม่น่าทำอย่างนี้เลย จากจะได้บุญจะกลายเป็นไม่ได้
เพราะทำแบบนี้ ทั้งคนที่ต้องเสียเงินก็ไม่ได้มาจากใจจริงๆ
คนรับก็มีเล่ห์เหลี่ยมแอบแฝงในการหาบุญ

มันเป็นการทำบุญซึ่งมาจากการโดนหลอกลวง

ไม่มีใครได้บุญทั้งนั้น 
คนเสียเงินก็ได้ความขุ่นเคืองและสูญเสียเงิน
คนรับเงินก็น่าจะได้บาป ที่บาปกว่าปกติ
เพราะหารายได้จาก คำว่า "ทำบุญ"

ขณะนี้สังคมเราเป็นเช่นนี้ 
ขนาดคนแจกใบปลิวเรายังต้องระวัง
แล้วเราจะไปไว้ใจอะไรกับใครได้
ไม่แปลกที่อัตราความเครียดและความไม่ไว้ใจ
ต่อคนในเมืองกรุงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

วันจันทร์, กรกฎาคม 06, 2552

black & white

วันนี้มานั่งดูๆภาพถ่ายแฟชั่นที่ตัวเองชอบ
ก็ทำให้รู้สึกว่า ตัวเองมีภาพถ่ายขาว-ดำอยู่เยอะเลยที่เดียว
ที่เป็นอย่างนี้อาจจะเพราะว่าชอบถ่ายรูปขาว-ดำด้วย
บวกกับความรู้สึกที่มีต่อภาพเหล่านี้ 
ซึ่งถ่ายทอดออกมาอย่างมีสเน่ห์

สำหรับตัวเรานั้น รู้สึกว่าภาพขาว - ดำ
มีความละเอียดอ่อนกว่าภาพสี่สี 
หากแสงไม่เข้าขั้น ภาพที่ออกมาก็คงจะดูธรรมดา
ไม่มีพลังดึงดูดเท่าที่ความสวยของมันสามารถจะเป็นได้
หากมีโอกาสก็อยากจะลองถ่ายภาพแฟชั่นแบบนี้ดูบ้าง
คงจะเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกไม่ใช่น้อย
วันนี้เลยเอาภาพของนางแบบที่ชอบมาให้ดู

ปล. นางแบบทั้งสองคนชื่อ Allison Harvard และ Agyness Deyn

วันอาทิตย์, กรกฎาคม 05, 2552

ความอึดอัดของความบังเอิญ

คำว่า "โลกกลม" นี้ ท่าจะจริงแหะ

การที่เราได้รู้จักกับคนที่คิดว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่กลับกลายเป็นคนที่รู้จักกับเพื่อนของเราไปซะได้
หรือ
ได้เจอกับคนที่ไม่ได้พบปะสังสรรค์กันเป็นเวลานาน
ด้วยความบังเอิญอย่างน่าเหลือเชื่อ (อารมณ์ว่ามันไม่น่ามาอยู่ตรงนี้ได้)

เหตุการณ์เช่นนี้น่าจะเคยเกิดขึ้นกับทุกคน

แต่การบังเอิญเจอกันบางครั้งก็ทำให้รู้สึกอัดอึด
ไม่ใช่ว่าอัดอึดเพราะไม่อยากเจอ 
แต่เพราะบรรยากาศที่เกิดขึ้นมากกว่า

สำหรับตัวเราเองนั้น 
หากบังเอิญเจอคนที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน
และคนๆนั้นไม่ใช่คนที่เคยสนิทกันสักเท่าไหร่
ก็จะรู้สึกว่า "จะคุยอะไรกับมันดี"
เพราะเป็นคนที่ค่อนข้างแข็ง และเป็นคนเก็บความรู้สึก
ไม่ค่อยจะมีปฎิกิริยาที่คนส่วนใหญ่เขาเป็นกันเวลาเจอคนที่ไม่เจอกันนาน
อาจจะเพราะว่าเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ห่วยแตกเป็นที่สุด
จึงไม่ถนัดในการรับมือกับเหตุการณ์ประเภทนี้
จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับคนต่อหลายคน
ซึ่งก็ต้องขอโทษพวกเขาเหล่านั้นด้วย
คิดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรดี

ซึ่งเราก็รู้ตัวดีว่ามันทำให้คนอื่นรู้สึกแย่กับเรา
และพยายามที่จะแก้ไขมาตลอด
แต่การที่จะปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพนั้นช่างทำยากกว่าพูดมาก
จึงต้องค่อยๆฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า

วันเสาร์, กรกฎาคม 04, 2552

รู้-ไม่รู้


มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ซึ่งมักโดนเพื่อนๆแกล้งอยู่ตลอด
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการแกล้งกันขำๆ

แต่บางครั้งก็เป็นการแกล้งที่ออกจะเกินไปหน่อย
ซึ่งทำให้เกิดความรำคาญเหมือนกัน
เพราะว่าการแกล้งแบบไม่รู้จักหยุดหย่อน
ไปจนถึงการตอกย้ำปอมด้อยของคนๆนั้นเนี่ย
มันยิ่งทำให้คนที่ดูแคลนเขายิ่งดูเป็นคนไร้สามัญสำนึก

การใช้คำนี้อาจจะดูแรงเกินไป 
แต่สำหรับเราแล้ว มันหมายความว่า อย่างนั้นจริงๆ
การดูถูกคนอื่น มันก็เหมือนได้ดูถูกตัวเองไปแล้ว 
เรามีสิทธิ์อะไรไปตัดสินเค้าเช่นนั้น
เราเองก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่
ทุกคนย่อมมีคำว่าไม่รู้ - ทำไม่ได้
การที่ไม่รู้ไม่ใช่ว่าเราโง่ 
คงไม่มีใครในโลกเกิดมาแล้วรู้ทุกอย่างหรอก
ถ้าเขาไม่รู้ หรือ รู้ไม่เหมือนเรา 
เราก็แลกเปลี่ยน - บอกเล่า ให้เขารู้ก็ได้ไม่ใช่หรือ

เราไม่ได้ลุกขึ้นมาเพื่อร้องทุกข์หรือขอความเห็นใจให้ใคร
เเพียงแต่เห็นพฤติกรรมเช่นนี้แล้ว
บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายและรำคาญใจ ก็เท่านั้น

วันศุกร์, กรกฎาคม 03, 2552

ปาร์ตี้










วันนี้ได้มีการโหวตหัวข้อ ปาร์ตี้ ขึ้น
ซึ่งเกือบทุกครั้งที่พวกเราจัดปาร์ตี้นั้น
พวกเรามักจะคิดหาคอนเซ็ปให้กับมัน
ซึ่งมันทำให้สนุกและมีสีสันมากกว่า
การมานั่งล้อมวงกินเหล้ากันแบบธรรมดาๆ

สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าเรื่องแบบนี้ มันไร้สาระ
แต่เราคิดว่า มันก็เป็นความคิดที่ดีนะ 
อย่างน้อยๆ เมื่อเรามีคอนเซ็ปเข้าร่วมงานปาร์ตี้(ก๊งเหล้า)
ก็ทำให้เกิดกิจกรรมบางอย่างขึ้น เช่น
การพยายามที่จะทำให้ตัวเองตรงกับคอนเซ็ป 
เริ่มคิดหาความเป็นไปได้จากของที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้
แค่นี้ก็ทำให้งานนี้ดูจะน่าสนใจมากกว่าการนั่งกินเหล้าทั่วไป
และมันก็ทำให้รุ้สึกว่าคนที่มาร่วมงานนี้มีใจให้กับมันแค่ไหน
คนไหนเต็มที่กับมันก็ดูจะได้ประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้น
ถึงแม้คนที่มาแต่ไม่ได้อยากเข้าคอนเซ็ปก็ไม่ได้จะว่าๆไร้สีสันในชีวิต
เพียงแต่คุณก็อาจจะอยู่แค่นั้น 
ในขณะที่คนอื่นเดินล้ำหน้าออกมาจากเส้นปกตินิดหน่อย

อีกอย่างนี้คงเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งในชีวิต
ที่เราจะสามารถทำอะไรได้สุดโต้ง 
เพราะถ้าเราโตขึ้นคงไม่มีโอกาส ไม่มีเวลา
ที่จะมาสังสรร ด้วยความสร้างสรรค์เช่นนี้อีก

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 02, 2552

ปวดท้อง


ความเครียดและความตื้นเต้น
ทำให้เรามีอาการประหลาดที่เป็นเอกลักษณ์ได้จริงๆ
ก็เพิ่งรู้เอาวันนี้แหละว่าตัวเองเป็นคนที่เวลาตื้นเต้น
แล้วจะปวดท้องอึ + ปวดท้องแบบบิดๆด้วย

แต่พอหลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไปแล้ว
กลับค่อยๆรู้สึกดีขึ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราจะเป็นจะตายกับมัน
ทำให้เห็นได้ชัดว่า ความคิดสามารถบ่งการร่างกายของเราได้
บางคนที่ไม่สบายอยู่ตลอดเวลา
อาจจะเป็นเพราะเข้าใจว่าตัวเองไม่สบาย
ทั้งๆที่ตัวเองอาจจะสบายดีมากกว่าที่คิดก็เป็นได้

คนป่วยบางคนไม่สามารถที่จะฟื้นไข้ได้สักที
เพราะว่าเขาเหล่านั้นไม่คิดที่จะหาย
โรคภัยมันก็จะยังคงอยู่กับเรา

การผ่อนคลาย และ คิดในแง่บวกนั้น 
น่าจะเป็นตัวที่ทำให้คนเรามีสุขภาพที่ดีได้

วันพุธ, กรกฎาคม 01, 2552

ผู้หญิง

เค้า (ซึ่งก็เป็นใครก็ไม่รู้) กล่าวไว้ว่า
"อารมณ์ของผู้หญิงหวั่นไหวกับความรู้สึกบางอย่างง่าย"

อารมณ์-ความรู้สึก ในที่นี้ หมายถึง อะไร

ใช่ ความรุ้สึกที่ว่า ตัวเองมีคนมาแอบชอบรึเปล่า
หรือ จริงๆแล้วนั้นเป็น การให้กำลังใจตัวเอง ( หลงตัวเอง )

ใช่ ความรู้สึกที่ว่า คนที่ตนเองรัก ไปแอบมีกิ๊กรึเปล่า
หรือ จริงๆแล้วนั้นเป็นเพียง ความกังวลที่ไม่มีตัวตนของเรา (ขี้หึงเกินเหตุ)

ไม่มีอะไรเป็นตัวพิสูจน์ได้เลยว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
เป็นจริงหรือเท็จแค่ไหน

ความรู้สึกเป็นสิ่งที่แตะต้องได้ยาก
แต่ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนอยากที่จะไป สัมผัส มันที่สุด
โดยการตีความไปตามการนึกคิดในช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น 

วันอังคาร, มิถุนายน 30, 2552

ภาพพจน์


วันนี้ทำเรื่องหน้าอายขึ้นระหว่างเรียน

คือ การ เรอ เสียงดังมากกกกกก

ใครจะไปคิดว่ากะเรอเบาๆมันดันออกมาเสียงดัง
ภาพพจน์ที่สร้างมาแทบตายร่วงเป็นผง

พูดถึงภาพพจน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ
แต่ทำไมเราถึงให้ความสำคัญกับมันขนาดนั้นล่ะ
อาจเป็นเพราะว่าคนเราไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากพอ
ที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองต่อสาธารณชน
จึงจำเป็นต้องสร้างภาพพจน์ขึ้นมา
เหมือนเป็นชุดสูทตัวเก่งที่ต้องใส่ออกสังคมทุกครั้ง
เมื่อกลับบ้านก็ถอดมันแล้วโยนลงตะกร้าไป 
พรุ่งนี้ออกไปไหนค่อยหยิบมาใส่ใหม่

แต่กลับคนที่บ้านนั้น ภาพพจน์หายไป
กลายเป็นความเคยชินจนละเลยบางอย่างไป
ความเคารพซึ่งกันและกัน
ความเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจ
เริ่มจะเลือนลาง ลดน้อยลงทุกทีที่สนิทและใกล้ชิดกันมากขึ้น

หยุดสร้างแต่ภาพพจน์ภายนอกต่อสังคมเพียงอย่างเดียว
แล้วหันมาหาและปฎิบัติต่อคนในบ้านเหมือนอย่างคนนอกในสังคมบ้าง

วันศุกร์, มิถุนายน 26, 2552

ช้างแพนด้า







ช้างแพนด้า- วังช้างอยุธยา เกาะกระแสแพนด้าฟีเวอร์ 
ให้ควาญนำสีขาวมาทาตัวพลายพันล้าน ช้างวัย 5 ปี จนกลายเป็นช้างแพนด้า 
สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบ เห็นและนักท่องเที่ยวไปอีกแบบ

นี่เป็นข่าวที่เพิ่งได้ไปอ่านเจอในเวปไซค์หนึ่ง
ทำให้รู้สึกว่า "เป็นบ้าอะไรกันไปแล้วหรือเปล่า"
ประเด็นที่ว่า คนไทยให้ความสำคัญกับแพนด้ามากกว่าช้างไทยนั้น
มีข้อถกเถียงมานักต่อนักแล้ว ซึงทำให้เกิดกระแสออกมาได้พักหนึ่ง
แต่ดูเหมือนว่า คนไทยจะให้ความสำคัญกับแพนด้ามากกว่า
ช้างไทยจึงต้องแปลงร่างกลายเป็นแพนด้า 
เพื่อเรียกร้องความสนใจของคนไทยที่รักแพนด้าทั้งหลาย

น่าสงสารเจ้าช้าง ที่ต้องละทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง
เพื่อให้ใครสักคนหันมาสนใจ. . . .

ปล.พอดีอ่านเจอตะกี้แล้วแบบว่าไม่อัพอีกรอบไม่ได้แล้ว !!

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 25, 2552

พักร้อน

เมื่อสองวันที่่ผ่านมา ป่วย อย่างที่ไม่ได้ป่วยมานาน
จริงๆแล้ว เรื่องการเป็นหวัด เป็นเรื่องปกติสำหรับเราอยู่แล้ว
แต่คราวนี้มีอาการไข้ขึ้นสูงและขึ้นๆลงอย่างแปลกประหลาก
จามจนรู้สึกจะอ้วก เจ็บคอ เจ็บลิ้น หายใจลำบาก
ทำให้คิดว่า เราจะเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือป่าวนะ
อาจจะเป็นเพราะกระแสของโรคที่กำลังมาแรง 
ทำให้เรานึกไปถึงมันได้อย่างง่ายดาย

แต่การป่วยก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
การป่วยทำให้เราได้ หยุด ได้ พักผ่อน
เหมือนเป็นการบู๊คเครื่องตัวเองใหม่เวลาโดนไวรัส
ซึ่งทำให้ให้เราหัวโล่งขึ้นและสามารถทำอะไรได้มากขึ้น
ถึงตอนนี้จะยังไม่หายสนิท ยังมีอาการอ่อนเพลียบ้าง
แต่ก็รู้สึกดีขึ้น คิดอะไรได้มากขึ้น 
ถึงแม้เรื่องที่คิดอาจจะไม่เกี่ยวกับการเรียน การงาน

บางครั้งคนเราก็ดูแลแต่หน้าที่การงาน จนลืมดูแลตัวเอง
หากคุณป่วยก็คิดซะว่า หัวหน้าคณสั่งให้คุณไปพักร้อนสักพักก็แล้วกัน

วันอังคาร, มิถุนายน 23, 2552

หลงลืม


วันนี้ตอนกลับจากเรียน ก็เดินเข้ามินิมาร์ท
เพื่อจะซื้อน้ำกิน ในขณะนั้นก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย
เมื่อหยิบน้ำเสร็จก็เดินออกจากร้าน
พอกำลังจะขึ้้นห้อง ก็มีเสียงเรียก "น้องคะๆ !!"
เราก็หันไปแล้ว นึกขึ้นได้ว่า "เอ๊ยย ยังไม่ได้จ่ายตังค์"
ในตอนนั้นขำตัวเองมากๆ ว่าทำไมถึงขี้ลืมได้ขนาดนี้

แต่จริงแล้วอาจจะเป็นเพราะคนเราไม่สามารถ
ทำอะไรหลายๆอย่างได้พร้อมกันก็เป็นได้ 
และเมื่อสถานการณ์บังคับให้เราต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน
ก็คงทำให้เราทำหนึ่งในหลายอย่างพลาดไป 
เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่กำลังช็อต เนื่องจากโดนสั่งงานมากเกินไป

ไม่แปลกเลยที่เหตุการณ์คุยโทรศัพท์ในขณะขับรถจึงเกิดอุบัติเหตุบ่อย
เป็นเพราะว่า สมองของเรา คงจะเหนื่อยเกินไปสำหรับการดูแล
กิจกรรมหลายๆอย่างพร้อมกัน ทำให้เกิดความเหนื่อยล้า
จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุไปจนถึงโรคภัย

น่าสงสารที่สมองของใครหลายๆคนไม่ค่อยได้พักผ่อน
ทุกคนต่างก็คิดว่า เวลาไม่เคยคอยใคร 
และทำกิจกรรมหลายๆอย่างเพื่อไม่ให้เสียเวลา

แต่หากรู้ไม่ว่า คุณได้ทำให้สิ่งที่จะอยู่กับเราไปจนตาย 
เหนื่อยล้าและอ่อนแรงลงทุกวัน

วันจันทร์, มิถุนายน 22, 2552

ละเมอ

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเวลาหายไป
นั้นแสดงว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเข้าญาณแบบไม่รู้ตัว
มันจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆกับเวลาเราคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
แล้วทำให้รุ้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว

ทำให้คิดว่าแล้ว การหลับลึก ล่ะ
การหลับลึกมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราหลับไปแล้ว 90 นาที
ซึ่งการหลับลึกมีส่วนดีในเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย จิตใจและผิวพรรณ

แต่การหลับลึกประเภทที่ว่า "ละเมอ" ล่ะ
ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว ที่คนเราทำอะไรบ้างอย่างออกมาในขณะที่ไม่รู้ตัว
การละเมอ จัดเป็นโรคอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ป่วยจะทำพฤติกรรมบ้างอย่าง
ในขณะที่อยู๋ในภาวะหลับสนิท ซึ่งเหมือนผู้ป่วยตื่นมาก็จะจำอะไรไม่ได้เลย
มีการละเมอเกิดขึนมากมาย แต่ที่ดูจะอันตรายที่สุด คือ

การละเมอ ฆ่าคน

จะเป็นอย่างไรหากเมื่อเราตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองฆ่าใครบางคนไปแบบไม่รู้ตัว
คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ มีคนที่มีอาการอย่างนี้อยู่มากในสหรัฐฯ
แต่อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสถานการณเช่นนี้ล่ะ

ความกดดันต่อสังคม ?
ความเครียดต่อการงาน ?

เราไม่อาจสรุปได้แน่ชัด เนื่องจากผู้ต้องหาหลายคน
มีเหตุจูงใจมากพอในการฆาตกรรม

แต่ก็มีอีกหลายคนอ้างว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่อง 
และ ไม่รู้จักคนที่ตนเองฆ่ามาก่อน

ทำให้คิดว่า หากเป็นตัวเราเองล่ะ เราจะอธิบายว่าอย่างไร  

วันอาทิตย์, มิถุนายน 21, 2552

ซ่อนแอบ

เมื่อพยายามค้นหา กลับหาไม่เจอ
แต่เมื่อปล่อยให้มันหายไป มันกับกลับมา

เรื่องแบบนี้คงเกิดขึ้นบ่อยๆกับหลายคน

บางครั้งมันก็ทำให้คิดว่า น่าเบื่อจริงๆเลย
เพราะหลายๆครั้ง ที่กำลังปล่อยให้มันไป
มันมักจะกลับมาหาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว 
ทำเอาเก็บรายละเอียดการกลับมาของมันไม่ทัน

จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

ทำเอาเหนื่อยจริงๆ กับการคิดหาไอเดียใหม่ๆ 
เหมือนเป็นการเล่นซ่อนแอบกับความคิดอย่างไงอย่างงั้น

วันเสาร์, มิถุนายน 20, 2552

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์


ซ้ำกันไม่ดีอย่างไร

เป็นคำถามที่ได้รับจากอ.มาตอนเรียน
สำหรับเราแล้วคิดว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์มากกว่า 
ถึงแม้ว่าอาจารย์อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่อยากจะสื่อความหมายก็ตาม

ใช่ ! ซ้ำกันมีดีในแง่ก็ของเป็นกลุ่มก้อน 
ทำให้สิ่งนั้นดูมีคุณค่ามากขึ้น 
ทำให้รู้สึกที่อยากจะเข้าไปค้นหามากกว่ามีอยู่เพียงหนึ่ง

แต่ รู้สึก ไม่ !!  เมื่อมันซ้ำกันจนไม่มีทางเลือก
ไม่รู้สิ นี่อาจจะเป็นความคิดส่วนตัวที่ไม่ได้บังคับให้คิดเหมือน
หรือรู้สึกว่าดีแล้วคล้อยตามขนาดนั้น
แต่อยากจะบอกเฉยๆว่า ในความรู้สึกบางอย่างแล้ว
ก็ไม่มีใครอยากซ้ำกันมากจนเกินไป ไม่ใช่ในแง่ของของสะสม
แต่หมายถึงเรื่องทั่วไปมากกว่านั้น

ถ้าเราเดินถนนแล้วเจอคนแต่งตัวซ้ำกับเรา
เพียงแค่ 1 ก็คงเริ่มรุ้สึกไม่ได้
แล้วถ้าเจอมากกว่านั้นล่ะ !!! 

เราไม่ได้ดื้อรัน หรือ อะไร เพียงแต่คิดว่า ซ้ำกันก็มีทั้งดีและไม่ดี
ขึ้นอยู่กับกรณีเสียมากกว่า   ^^

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 18, 2552

ตลาดนัด


วันนี้ได้ไปเดินตลาดนัดธรรมศาสตร์
สิ่งที่ได้ติดไม้ติดมือกลับมามากที่สุด 
คงจะหนีไม่พ้น ของกิน !!

ไม่ว่าจะเดินตลาดสักกี่ครั้งก็มักจะซื้อของกินมาเยอะเกินไปทุกที
และก็ต้องมานั่งเสียดายตอนหลังว่า ไม่น่าซื้อมาเยอะเลย

ทำให้คิดว่าการระงับ ความอยาก นี้มันยากจริงๆ
และเข้าใจว่าทำไมคนเราถึงได้ตกเป็น ทาส การบริโภคนิยมได้อย่างง่ายดาย
เพราะมนุษย์มีความอยากที่ไม่สิ้นสุด และจะพยายามที่จะระงับมันอยู่ตลอดเวลา

การจะหยุดนั้นดูจะเป็นเรื่องยากไปแล้ว
หากยังมีสิ่งยั่วยวนจิตใจเราอยู่มากมายขนาดนี้
ทั้งโฆษณาที่มีออกมาอย่างครึกโครม ไม่รู้จักหยุดหย่อน
หรือห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งบันเทิงที่ตั้งหลาอยู่ทุกหนแห่ง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเกิด เหตุร้ายหรือคดีต่างๆ อยู่ทั่วไปด้วย. . .

วันพุธ, มิถุนายน 17, 2552

ความเชื่อ


ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่อง เลข 13 (เพราะคิดว่าจะเอาไปทำงานถ้ามันผ่าน)
ทำให้รู้เรื่องราวต่างๆมากมายเกี่ยวกับมัน
ตั้งแต่ความเป็นมาในหลายรูปแบบ
จนถึงเรื่อง ความโชคร้าย ที่เกิดจากเลข 13
ซึ่งก็ถือเป็นความเชื่อในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยเริ่มต้นจากชาวตะวันตก

และในที่สุดความเชื่อนี่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆจนล่ามเข้าสู่เอเชีย
ทั้งๆที่ในสมัยก่อนนั้น จีน เคยเชื่อว่า 13 เป็นเลขแห่งความโชคดี
แต่ปัจจุบันความเชื่อนี้ถูกเปลี่ยนไปตามความเชื่อตะวันตก

อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
ความเจริญก้าวหน้าที่ตะวันตกนำมา?
หรือเป็นเรื่องของค่านิยม

ความเชื่อท้องถิ่นถูกความเชื่อของต่างชาติ
เผ่าพันธุ์ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเราเปลี่ยนและบิดเบือนไป
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความเชื่อเล็กๆน้อยๆ
จากการมองเห็นโดยสายตา 
ก็ทำให้เห็นว่าไม่มีประเทศไหนเป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป

ปัจจุบัน ชาติที่ยังคงดำรงซึ่งความเป็นตัวของตัวเองช่างเหลือน้อยเต็มที
ลูกหลานเราคงดีใจที่ในที่สุด ทุกชาติก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

อย่างนั้นหรือ ?

วันอังคาร, มิถุนายน 16, 2552

ปูมะพร้าว

ที่ห้องตอนนี้ มีมะพร้าวอยู่ 2 ลูก
ซึ่งได้มาจากเพื่อนๆเป็นของขวัญวันเกิด

มองเจ้ามะพร้าวสองลูกนี้กี่ที ก็คิดว่า
จะทำยังไงกับมันดี ?
มันจะเน่ารึเปล่า ?
แล้วถ้าจะปอกเปลือกนี่จะทำยังไง ?

ยิ่งมองมันเท่าไหร่ก็คิดว่า ถ้ามันมีตัวอะไรออกมาเหมือนฟักไข่ล่ะ
ตัวอะไรจะออกมา !!  แล้วก็ทำให้คิดถึง ปูมะพร้าว
มันจะมีรูปร่างคล้ายมะพร้าว อยู่ในเกาะเขตร้อน
มีนิสัยรักสงบ เรื่องนี้รุ้มาจากตอนอ่านการ์ตูนแล้วมันพูดถึงที่มัลดีฟล่ะมั้ง

ทำให้คิดว่า นิสัยรักสงบ ของเจ้าปูมะพร้าว
น่าจะเกิดจากความสงบของเกาะนี่รึเปล่า ?
เพราะมัลดีฟได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์นี่นา 

งั้นที่เดี๋ยวนี้คนเมืองที่มีเทคโนโลยีมากมายล้อมรอบต่างเห็นแก่ตัวมากขึ้น
เป็นเพราะว่าเมืองนั้นทำให้เกิดความกดดันและแก่งแย่งกันมากขึ้นรึเปล่า
ทั้งๆที่ เทคโนโลยี ต้องนำมาซึ่งความสะดวกสบายสิ
แต่ดูเหมือนมันกลับทำให้คนเราต้อง ลำบาก ขึ้นเพื่อจะได้มันมา . . .

วันจันทร์, มิถุนายน 15, 2552

ของชอบ


การหาของที่เราชอบ 20 ชิ้นนี้ (ที่ต้องรีบหาเพราะจะมาหอนี่แหละ)
ทำให้รู้ว่า ของที่ชอบเป็นการส่วนตัวนั้น 
นอกจากหนังสือ เพลง การ์ตูนแล้ว 
ที่่เหลือ ดูจะเป็น ของกิน ซะส่วนใหญ่

ทำให้คิดว่า แย่แล้ว ถ้ามันเป็นหมวดเดียวกันแบบนี้จะทำไงดี
เลยเริ่มมองเรื่องรอบตัวที่ใกล้เข้ามาอีก
มองเรื่องปกติให้ไม่ปกติดูบ้าง 
ทำให้เห็นว่า เออ เราก็แปลกเหมือนกันนะ
ชอบในสิ่งที่คนอื่นเค้าคนไม่น่าจะสนใจกัน
เช่น ไม้แคะหู  หมอนข้างที่ไม่เคยใช้กอดแต่เอามาปิดตาแทน
(แต่ลืมเอามา เสียใจอะ) 

แต่ถ้าจะให้พูดนะ ความชอบส่วนตัวจริงๆ
ก็คือ ของกิน ทั้งนั้นเลยล่ะ
.​ . . .  - -"

วันอาทิตย์, มิถุนายน 14, 2552

เด็ก-ผู้ใหญ่


ทำไมเด็กถึงชอบกรี๊ด ? และจะกรี๊ดต่อเมื่อมีคนขัดใจ
มันอาจจะไม่แปลกอะไรที่เด็กเล็กๆจะกรี๊ดเพื่อเรียกร้องความสนใจ
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า เด็กยังไม่รู้วิธีที่จะร้องขอสิ่งที่ต้องการยังไง
จึงกลายเป็นความธรรมดาไปสำหรับคนทั่วไป

แต่เมื่อผู้ใหญ่หันมาแข่งกรี๊ดกับเด็กล่ะ ?

มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย !! 
เป็นสิ่งแรกที่คิดเมื่อเจอเหตุการณ์นี้เข้ากับตัวเอง
อะไรเป็นปัจจัยให้ผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าเด็กเป็น20-30ปี
กรีดเสียงร้องแข่งกับเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ

มันเป็นอะไรที่ทำให้คิดว่า เดียวนี้สังคมมันคงจะแย่เกินไปแล้วจริงๆ
เพราะผู้ใหญ่คนนี้ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดให้เด็กหยุดกรี๊ด
จึงถึงกับต้องกรี๊ดแข่งกับเด็ก ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
กลับยิ่งทำให้เหตุการณ์แย่ลงไปอีกด้วยซ้ำ
และยังสร้างความรำคาญให้กับบ้านอื่นๆอีกด้วย

มันเป็นเพราะอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้

เป็นเพราะ เด็ก ที่ไม่หยุดเอาแต่ใจ ? 
ไม่น่าจะใช่ .​.​.​.

หรือ 

เป็น เพราะ ผู้ใหญ่ ที่ไม่ใส่ใจดูแลเด็กคนนี้ ?
       เพราะ ผู้ใหญ่ คนนี้แก้ปัญหาไม่เป็น ?
       เพราะ ผู้ใหญ่ คนนี้เคยได้รับการกระทำเช่นนี้เหมือนกัน ?

คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว แต่ไม่อาจสรุปได้
มันส่วนตัวเกินไปสำหรับการค้นหา 
เพราะเหตุผลที่แท้จริงนั้น คงต้องมาจากปาก ผู้ใหญ่ คนนั้น เท่านั้น

วันเสาร์, มิถุนายน 13, 2552

ความโชคร้ายของเลข13


13 เป็นหมายเลขที่บางคนอาจจะกลัวมัน

แล้วทำไมแค่ตัวเลข จำนวนหนึ่งนี้ 
สามารถสร้างความกลัวให้คนได้
ทั้งๆที่มันก็อยู่ของมันเฉยๆ แท้ๆ

บางคนอาจจะบอกว่ามันเป็นตัวเลขแห่งความโชคร้าย
ความโชคร้ายจะเกิดขึ้นจาก 13 ได้อย่างไร
1+3=4 มันไปพ้องกับคำว่า ซี้ (ม่องเท่ง) ของภาษาจีน ?
หรือ จริงๆมันอาจจะมาจาก ซี้ แบบ เพื่อนซี้ ก็น่าจะเข้าท่านะ

เป็นความโชคร้ายของ หมายเลข 13 จริงๆ ที่ใครๆต่างก็กลัวมัน
ทั้งๆที่ยังไม่ทันทำความเข้าใจหรือสัมผัสกับตัวมันเองเลยสักครั้ง

วันศุกร์, มิถุนายน 12, 2552

คนเดียวหัวหาย ?

รสนิยมของแต่ละคน ต้องมีความไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
แต่ทำไมพอเรามีอะไรที่แตกต่างคนก็มักจะมองว่าเราแปลกประหลาด

ทั้งๆที่ไม่มีอะไรมากำหนด รสนิยม ของแต่ละคนให้เหมือนกันทุกอย่างได้แน่
บางครั้งการแต่งตัวของเรา จะแปลก จะถูกมองว่าแก่ไป หรือเด็กไป
แต่ยังไงมันก็คือความชอบส่วนตัวของเราอยู่ดี
ทำไมเราต้องแคร์กับคำวิจารณ์ของคนที่อาจจะไม่ได้ชอบเหมือนเรา

บางคนสนใจคำพูดของคนอื่นซะมากกว่าความคิดของตัวเอง
เขาเหล่านั้นไม่ทรมานบ้างหรือไง เราสงสัย
หรือว่า ความเหมือนกันในสังคม มันทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกอุ่นมากกว่า

ความอยากสวย เหมือนคนนี้ๆไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ใครๆก็มีกัน
แต่ไม่รู้สึกตลกกันเองบ้างหรอที่แต่งตัวเหมือนกันทั้งกลุ่ม 
เดินไปไหนมาไหนด้วยกันก็ออกมาพิมพ์เดียวกันหมด

หรือเพราะว่าความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมเลยต้องมีอะไรเหมือนๆกัน
เพื่อเป็นการบ่งบอกว่า ฉันเหมือนเธอนะ ขอฉันเข้ากลุ่มด้วย 

. . . . ?

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 11, 2552

หุ่นยนต์-ตุ๊กตา

ทำไม เด็กผู้ชาย ถึงเกิดมาแล้วรู้ว่าตัวเองต้องเล่นหุ่นยนต์
ทำไม เด็กผู้หญิง ถึงเกิดมาแล้วรู้ว่าตัวเองต้องเล่นตุ๊กตา
ก็แปลกดีนะที่เด็กๆเหล่านี้ รู้ตัวว่าตัวเองต้องเล่นอะไรถึงจะเรียกว่า ผู้ชาย/ผู้หญิง

แล้ว....
ทำไม เด็กผู้ชาย ที่เกิดมาแล้วเล่นตุ๊กตา ถึงถูกกล่าวหาว่า แตกต่าง
ทำไม เด็กผู้หญิง ที่เกิดมาแล้วเล่นหุ่นยนต์ ถึงถูกกล่าวหาว่า แตกต่าง

จริงๆแล้วพฤติกรรมการเลือกที่จะเล่นของเล่น ไม่น่าจะเกิดจากตัวเด็กเอง
แต่น่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อม แล้วทำไมถึงต้องเกิดการแบ่งแยก
เราคิดว่า จริงๆแล้ว ลึกๆของทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองอยากทำแต่ไม่กล้าจะทำอยู่แน่ๆ
เพราะความกลัวที่จะถูกแปลกแยก ถูกมองว่าแตกต่าง และไม่ยอมรับเข้าสู่สังคมส่วนใหญ่

แต่ปัจจุบันสังคมเปิดกว้าง เลยทำให้คำว่า แตกต่าง กลายเป็นที่นิยมไปหรือเปล่า
สำหรับเรา คิดว่าบางคนเป็นเพราะว่าจะให้ทุกคนมองเห็นตัวเอง เพราะต้องการเป็นที่สนใจ
แล้วนั้นมันจะใช่สิ่งที่เรียกว่า ตัวตนที่แท้จริง แน่หรือ ?

วันพุธ, มิถุนายน 10, 2552

ขี้แพ้ แต่อยากจะชนะ

อาการคัดจมูกเป็นอาการที่ทำให้เหนื่อย
และอาจจะน่ารำคาญสำหรับผู้อื่นและตัวเอง

เพราะว่าเป็นโรคภูมิแพ้จึงทำให้มีอาการคัดจมูก
และมีน้ำมูกอยู่เกือบตลอดเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะเพราะธรรมชาติ หรือจากแอร์ก็ตาม

ตั้งแต่เกิดมาก็มีอาการแพ้ไปซะทุกอย่าง 
ไม่ว่าจะเป็นอากาศ ฝุ่น ทราย ผงฟู ชอคโกแลต
ปลาหมึก ฯลฯ 

แต่เพราะเป็นคนชอบเอาชนะ เลยอยากจะชนะอาการพวกนี้บ้าง
อย่างชอคโกแลตก็กินๆๆๆจนมันไม่แพ้แล้ว อย่างอื่นก็ยังพอสู้ไหว
จะมีก็แต่อากาศนี่แหละนะที่ไม่รู้จะสู้กับมันยังไงดี
บางครังก็นึกสงสารและเกรงใจคนรอบข้างที่ต้องทนกับน้ำมูกและเสียงคัดจมูก
ก็เลยแอบคิดว่า ถ้ามันมีิวิธีอะไรที่ทำให้เสียงเวลาสั่งน้ำมูกนั้นเบา
แต่เราสามารถสั่งน้ำมูกได้เยอะๆ หรือเวลาจะจามแล้วผ้าเช็คหน้า
หรือทิชชูมีตัวดูดเสียงไปได้ก็คงจะดีไม่น้อยเลยล่ะ

ถ้าทำได้ก็คงถือว่าได้ชนะอาการแพ้อากาศแล้วหรือเปล่า ?

วันอังคาร, มิถุนายน 09, 2552

เก็บ...

เมื่อเกิดความรู้สึกบางอย่าง
แต่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้
โดยปกติก็จะทำให้รู้สึกอึดอัด

แต่บางครั้งการเก็บความรู้สึกนั้นไว้
ก็อาจจะเป็นผลดีมากกว่า

วันจันทร์, มิถุนายน 08, 2552

จิ้งจกขาด้วน หางกุด


ที่ห้องมีลูกจิ้งจกอยู่ตัวหนึ่ง เห็นมันออกมาเดินหาแมลงกินเป็นประจำทุกวัน
สักพัก ขาของมันข้างหนึ่งก็หายไป แต่มันก็ยังออกมาเดินโฉบฉายอยู่เหมือนเดิม
ดูมันจะไม่มีปัญหากับขาที่หายไปของมันเลย

แล้ววันนี้มันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับหางกุดๆ
สงสัยเหมือนกันว่า ทุกๆวันมันไปเจออะไรมา 
ทั้งๆทีมันก็น่าจะอยู่แต่ในห้องนี้ แต่ทำไมเดียวๆก็ขาหาย หางหาย
แต่มันก็ดูจะไม่สนใจกับอวัยวะที่หายไปเลย
อาจจะเพราะว่ามันสามารถงอกขา หรือหางออกมาใหม่ได้อีกก็ได้มั้ง

ผิดกับคนเรา ถ้าอะไรบางอย่างได้หายไปอาจจะทุรนทุรายรับไม่ได้
กว่าจะทำใจกับมันได้ก็ใช่เวลานาน หรือไม่ต้องจมปลักอยู่กับมัน
สำหรับเราเองก็ไม่ได้ดีหรือปลงได้หรอก 
ถ้าหากต้องสูญเสียอะไรบางอย่างก็อาจจะรับไม่ได้เหมือนกัน


เลยคิดว่าถ้าคนเราสามารถเป็นเหมือนจิ้งจกได้ก็คงไม่เลวเหมือนกันนะ


วันอาทิตย์, มิถุนายน 07, 2552

คิดไม่ออก จะทำอย่างไร


คิดว่าหลายๆคนคงต้องเคยคิดแบบนี้แน่ๆ
เพราะเราเองก็คิดบ่อยๆ 

ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ต้องคิดเยอะที่สุดว่า จะเอาหัวข้ออะไรไปเสนอดี
เลยทำให้เกิด เหตุการณ์ที่ว่า คิดไม่ออก ขึ้นมา

เราก็เลยลองคิดๆดูว่าถ้าคิดไม่ออกจะทำยังไงดี
อ่านหนังสือก็แล้ว หาตามเว็บไซต์ก็แล้ว ก็ยังไม่ได้แรงบันดาลใจอะไรออกมาเป็นพิเศษซักที

บางคนบอกว่า ผ่อนคลายซะบ้าง แล้วจะคิดออกเอง
ไม่ใช่เราไม่เชื่อกับคำบอกนี่ แต่เราก็ได้ลองทำดูแล้วก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี 
หรือ ว่าเพราะเรายังมีความคิดอะไรบางอย่างติดอยู่กับความผ่อนคลาย

อาการเหม่อลอย จะเรียกว่าเป็นการผ่อนคลายได้หรือเปล่า
เพราะบางครั้งเราจะคิดอะไรแว่บๆขึ้นมาได้ตอนเหม่อลอย 
หรือว่า จริงๆแล้วนั้นเกิดจากการ เพ้อเจ้อ ของเราเอง

ตกลงจนถึงตอนนี้ เราก็ไม่แน่ใจว่าตกลงแล้ว คิดไม่ออก ต้องทำอย่างไรดี?