วันจันทร์, สิงหาคม 31, 2552

Thai PBS ช่วงศิลปะบันเทิง

วันนี้ได้ไปออกทีวีมา

ช่องไทยทีวี (thai PBS) ตื้นเต้นมากๆ แต่ไม่เท่าตอนไปเสนอหัวข้อครั้งแรก
แต่คนที่ติดต่อเรานั้นต้องไปหัดบอกทางไปสถานีใหม่
บอกให้บีไปรอตรงออฟฟิศ ซึ่งไม่ใช่ตรงจุดที่เขาจะถ่ายกัน
พอเจอยาม ยามก็พูดเหมือนเราจะเข้ามาขโมยของ อะไรงี้ 
เพราะว่ามายืนด้อมๆมองๆ อยู่นาน
พอเล่าให้ฟังเค้าก็คิดว่าน่าจะเป็นอีกทีและพามาส่งที่ห้องถ่ายข่าว
พอถึงก็โดนจับไป "ซับหน้า" ซึ่งแถวบ้านเรียกว่า โป๊ะหนาๆ
แต่พี่เค้าก็แต่งสวยแหละ และเข้าใจว่าที่ต้องแต่งหนาๆ เพราะแสงในห้องส่งมันแรง

พอถึงเวลาจะออกอากาศพี่ผู้ประกาศก็เอาสคริปมาให้อ่าน
และพอ 3 2 1 เริ่ม หัวใจแทบจะหล่นไปอยุ่ตาตุ่ม
มืออยู่ไม่สุข และทำหน้าเอ๋อ เหวอ ออกอากาศไป - -''
แต่ก็ทำให้รู้ว่า พี่ผู้ประกาศข่าวเก่งมากๆ
คอยช่วยเราตลอด เวลาเรากำลังจะตอบออกนอกเรื่อง
แต่ถ้าจะให้ดีควรจะถามตาม สคริปนะคะ พี่ T-T
ถามนอกสคริปแล้วแทบช๊อค  555

จากการไปออกทีวีครั้งนี้ ไม่ได้บอกเพื่อนๆเลย
แต่ก็รู้กันจนได้ 5555
สำหรับคนที่บอกก็มีแค่ พ่อแม่ และ นน
แต่จากที่ไปบ้านนนมาทำให้รู้ว่า ตอนนี้ดังในหมู่ญาติไปแล้ว
เพราะว่าแม่นนโทรไปปลุกญาติขึ้นมาดูกันเกือบทุกคน

สรุปแล้วก็ สนุกดี แต่ตื่นเช้าไปหน่อย 555


วันศุกร์, สิงหาคม 28, 2552

ความคาดหมายของบางสิ่ง


บางครั้ง เราก็ไม่สามารถทำตามความต้องการของเราได้เสมอไป

ความคาดหมายเป็นเพียงสิ่งที่ปูไว้ให้เราเดินตาม

เพียงแต่บางครั้ง ทางที่ปูไว้ก็อาจจะมีหลุมที่ทำให้เราต้องตก

หรือเปลี่ยนเส้นทางในการดำเนินชีวิตต่อไป .​..... 

วันจันทร์, สิงหาคม 24, 2552

ห้องน้ำ กับ รถไฟฟ้าใต้ดิน

เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ไปกิน เนื้อย่างร้านไจแอนท์มา
แล้วก็กำลังจะกลับหอ อยู่ๆพอนั่งแท๊กซี่ไปถึงรถไฟฟ้าใต้ดิน
ก็เกิดอาการปวดท้องแบบกะทันหันขึ้น 
เลยเดินไปหาพี่พนักงานประจำช่องขายตั๋ว
เขาก็ดูจะเป็นห่วงดี และอยากจะช่วยเหลือ 
เพียงแต่ว่า การจะเข้าห้องน้ำภายในสถานีรถไฟฟ้านี่
ดูจะเป็นเรื่องยากลำบากอยู่พอตัว
เพราะว่า พี่เขาต้อง วอ ไปหา พนักงานอีกคน อีกคน และอีกคน
ถ้าเกิดว่าเป็นอาการท้องเสีย บี คงต้องกลายเป็นที่จดจำไปอีกนาน
ซึ่งพอได้คนที่เค้ามีกุญแจ ไอเราก็นึกว่าจะได้เข้าแล้ว
ปรากฏว่าต้องเดินอีกไกลพอสมควร
ไปยังโซนที่เป็นเขตก่อสร้างภายในโครงการของรถไฟฟ้าใต้ดิน
พอได้เข้าห้องน้ำปุ๊บ เกือบจะรู้สึกดีแล้ว
เพียงแต่ว่า พี่หนักงานเขายืนเฝ้าอยู่นี่สิ
แล้วแบบว่า อืออ จะฟังเสียงชั้นปล่อยหรือไงกันน้า
จะปล่อยก็กล้าๆกลัวๆ ว่าจะดังไปอะป่าว
ปรากฏว่า เอา พอ เดินทางได้ ดีกว่า
ให้ทำใจสบายเอาให้เต็มที่คงไม่ใช่วิสัย - -''

หากทางสถานีรถไฟฟ้าทำห้องน้ำสาธารณะ
ที่อยู่ภายในสถานีก็คงจะไม่ต้องเกิดเรื่องประมาณนี้ขึ้น
อาจจะเป็นห้องน้ำที่ต้องออกตั๋วโดยสารเข้าไปก่อน
ถึงจะใช้ได้ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

เป็นอีกวันที่ได้เจอประสบการณ์น่าประทับใจ? 

วันอาทิตย์, สิงหาคม 23, 2552

อิทธิพล - การเลียนแบบ

วันนี้ได้นั่งดูงานและหาreferenceงาน
ตามแนวconcept ก็พบว่า พอดูไปสักพัก
เราก็เริ่มจะติดแนวภาพที่เห็นมาอยู่พอสมควร
ก็กลัวว่าจะกลายเป็นเลียนแบบงานที่ดูรึป่าว
แต่ก็พยายามที่จะเอาแค่กลิ่นที่ได้สัมผัสมาเท่านั้น

ในความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกว่าการดูแล้วได้อิทธิพลมาไม่ใช่เรื่องผิด
เพียงแต่ว่าต้องปรับใช้ให้เป็นตัวเรา หรือให้เป็นงานของเราจริงๆให้ได้
ไม่เช่นนั้นงานที่ทำออกมา ก็ไม่ต่างอะไรไปกับการเลียนแบบ

หรือเป็นเพราะว่า คนไทย มีเชื้อแห่งการเลียนแบบอยู่ในตัวทุกคน
จึงทำให้สิ่งที่อยู่รอบตัวเราในทุกๆแห่งหนมีแต่การเลียนแบบ
หรือเป็นเพราะคนยุคแรกๆที่ทำตัวเลียนแบบต่างชาติ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัว การนำสิ่งของเข้ามาใช้
ทำให้พฤติกรรมนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ และซึมลึกเข้าสู่ตัวเรากันแน่

วันเสาร์, สิงหาคม 22, 2552

คาดหวัง

ความคาดหวัง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน และทุกโอกาส
ซึ่งสำหรับเราแล้วมันเป็นสิ่งที่ทำให้บีรู้สึกกดดัน
ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวัง จาก พ่อแม่ อาจารย์ หรือเพื่อนๆ
ในที่นี่ไม่ได้หมายถึง เขาเหล่านี้จะมาบอกกันตรงๆ
แต่มันมีความรู้สึกที่ส่งมาจนรู้สึกได้อยู่
เช่น ประโยคที่ว่า บียังไงๆก็ทำได้อยู่แล้ว หรือ ถ้าบีทำไม่ได้แล้วใครจะทำได้
มันทำให้บีบางทีก็รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องพยายามเพื่อให้เกิดผล
แต่เพราะว่าไม่อยากให้ทั้งตัวเองและคนอื่นผิดหวัง
จึงพยายามและทุ่มเทสุดชีวิตในการทำสิ่งต่างๆ
หากไม่ได้ดังหวังมีแต่ตัวเราหรือเปล่าที่มานั่งน้ำตาตกใน

แต่ความทุ่มเทและพยายามเหล่านั้นก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง
มันทำให้เราขยัน มีความรับผิดชอบและพยายามที่จะทำสิ่งต่างๆต่อไป

ดังนั้นในเรื่องที่เขียนๆมานี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า
ความคาดหวังไม่ดี นะ มัน ดี เลยทีเดียวในการผลักดันเราไปข้างหน้า
แต่ก็อย่ามากเกินไปอย่างบีเลย 55555

วันศุกร์, สิงหาคม 21, 2552

ต่อมความอยาก

วันนี้ไปที่ฟิวเจอร์รังสิตมา
เพราะว่าต้องไปอัดรูป วิชาCD

ขณะกำลังเดินทางไปนั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามา
บอกว่า "บี มีเทศกาลขนมหวานที่ฟิว"
โหย  ต่อมความอยากนี้ทำงานเลย
ขยันเดินจากเมเจอร์มาฟิวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ถึงแม้จะจน ถึงขนาดไม่มีตังจะกินข้าว
ต่อมความอยาก นี้ ก็ยังไม่รู้สึก ถึงความลำบากข้างหน้า
แถมยังทำงานหนักขึ้นเมื่อไปถึงที่

ซึ่งการจัดการกับความอยากได้นี่ช่างลำบากจริงๆนั้นแหละ
มันเหมือนมีคนเอาอะไรมาบังให้เรามองไม่เห็น
สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ ทั้งๆที่เราเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วแท้ๆ
เฮ้อออ มันจะเป็นแบบนี้กับคนอื่นบ้างไหมหนอ
ช่วงนี้เราคิดว่า เรา สามารถจัดการกับต่อมความอยากนี้ได้ดีขึ้นแล้ว
สำหรับเรื่องของการซื้อโดยไม่จำเป็น (พวกเสื้อผ้า อะไรงี้)
แต่สำหรับเรื่องของ ของกิน แล้ว มันจัดการได้ยากซะจริงๆ

Ps. สรุป ซื้อเค้กมา 2 ชิ้น
 

วันพุธ, สิงหาคม 19, 2552

เกาหลี

วันนี้ได้ไปกินอาหารเกาหลีมา 
ซึ่งสำหรับเราแล้ว เป็นอาหารที่เราแทบไม่ถนัด
เพราะว่าจะมีผักเป็นส่วนประกอบหลัก
แล้วคือ บี = ไม่กินผัก และ ไม่กินเผ็ด
อาหารเกาหลี = ผักเพียบ และ เผ็ดพอตัว (สำหรับเรา)
ดูจะเป็นสมการที่ไม่เข้ากันอย่างแรง

แต่พอได้ลองเสี่ยงชีวิต(ทางการเงิน)กินดู 
เอ้ยย ก็ ok พอได้  ถึงแม้ว่าจะต้องเขียผักที่ชิ้นโตๆออกบ้างก็เหอะ
แต่ชอบเมนูความผัดกิมจิเบคอนมาก
เพราะว่ามันหั่นผักได้ละเอียดยิบมากๆ แล้วแครอทก็นุ่มด้วย
ทำให้เรากินได้ง่ายๆ ไม่รุ้สึกถึงความเปนผักหรือกลิ่นเหม็นเขียวเท่าไหร่
อีกเมนูที่ชอบ คือ กะทะร้อน 
เพราะว่าเนื้อนุ่มอร่อยมาก จริงอันนี้ต้องกินกับผักสด
แต่บีรับไม่ไหวจริงๆ เลยกินกับข้าวเเทน

คือจริงๆ ช่วงนี้ก็พยายามฝึกกินผักและกินเผ็ดอยู่
แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ 
ถ้าเป็นผักต้มหรือผักที่เอามาหั่นเล็กๆอะกินได้อยู่
แต่ผักสด นี่ ทำใจไม่ได้จริงๆ 
แต่ต่อไปจะพยายาม !!!

ปล. วันนั้นกินไปตั้ง 2 จานแหนะ

วันอาทิตย์, สิงหาคม 16, 2552

ร้อนใจ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ได้ข่าวจากพี่เบลว่าเราได้ลงหนังสือเล่มหนึ่ง
แบบไม่รู้ตัว แถมเปนรูปเดียวๆด้วย 

ก็ทำให้รู้สึกตื้นเต้นและอยากได้มาครอบครอง
แต่ไม่ว่าหายังไงก็หาไม่เจอ
เพราะว่ามันหมดและยังไม่เข้ามายังรังสิต
ทำให้รู้สึกว่าเวลาตามหาของที่ต้องการนี้
มันมักจะชอบเล่นซ่อนแอบกับเราอยู่เสมอๆ
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

หรือเป็นเพราะว่าความร้อนใจของเรา
ทำให้เราสังเกตและมองไม่ถี่ถ้วน จนมองข้ามสิ่งที่ตามหาไป

และความร้อนใจนี้ทำให้เกิดความเร่งรีบขึ้น
ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ในชีวิตเราไปหลายอย่างใช่หรือไม่

วันอังคาร, สิงหาคม 11, 2552

เซ็ง

เบื่อตัวเองที่เป็นหวัดได้ตลอดเวลา

จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่หวัดหรอกนะ

เปนแค่ อาการแพ้อากาศ

แต่ที่น่ารำคาญ ก็คือ มันจะเป็นทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน
โดยมีน้ำมูกไหลออกมาตลอดเวลา
หายใจไม่ออกเพราะจมูกตัน
อย่างหนักสุดๆก็เจ็บคอเพราะร้อนใน


เดียวๆมาเดียวๆหาย

ช่างน่าเบื่อจริงๆ

วันอาทิตย์, สิงหาคม 09, 2552

shopping !!

วันนี้ไป เจเจ มา 

ตอนแรกกะว่าจะไม่ซื้อเยอะ
เพราะว่าไม่มีตัง
กะว่าเดินๆดูก็พอ 

โดยมีความตั้งใจหลักว่า 
จะซื้อเสื้อยืด สัก 2 ตัว กางเกงของสั้นสีดำ 1 ตัว
และถ้ามีโอกาสอยากได้บูทแบบพับเตี้ยๆสักคู่

เดินๆไปในตอนแรกดุราวกับว่าจะทำตามเป้าหมายได้
ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งเจอร้านเสื้อยิดที่ต้องการ
เข้าไปเลือกสี ประกอบกับแรงยุ จากนน ทำให้ได้มา 3 ตัว 250 บาท
เดินๆต่อไปอีกเรื่อยๆก็ยังไม่ได้อะไรเลย 
ขนาดเสื้อที่นนบอกว่าสวยและชอบมาก อยากให้บีใส่
เราก็ไม่เสื้อตามคำยุยงและส่งเสริมอันแรงกล้า

แต่พอกะว่าจะกลับเท่านั้นแหละ เอาวะ ซอยนี้ยังไม่เคยเดินเลย
เดินไปได้สักพัก พบกับ "นาทีทอง เสื้อยืดตัวละ 50 บาท"
โดนไป 3 ตัว (เอ๊ะได้ข่าวว่า เกินเป้าหมายไปตั้งแต่ที่ซื้อตอนแรกแล้วนะ)
เดินไปอีกนิด ได้ชุด+เสื้อยืดมาอีก อย่างละ 1  ตัว 
รวมแล้วเบ็ดเสร็จ หมดไป 1080 บาท (รวมค่ากินค่าน้ำและจุกจิกและค่ารถ)

อือออออ กลับบ้านอย่างมีความสุขแบบกระเป๋าฟีบๆอีกครั้ง
(อาทิตย์นี้กินแกลบทั้งอาทิตย์อีกแล้วสินะ)

วันเสาร์, สิงหาคม 08, 2552

เครียด

การที่จะพยายามบอกสิ่งถึงความหมายของสองสิ่ง
ในรูปแบบของอีกสิ่งหนึ่งโดยให้มีการคงอยู่ของสิ่งแรก
อยู่อย่างชัดเจนด้วยนั้น ช่างน่าลำบากใจจริงๆ

มันคล้ายๆกับว่า ถ้าจะทำนั้นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ว่าจะเลือกให้สิ่งใดสื่อออกมาเป็นพิเศษ

เพราะเวลาที่ตั้งใจไปในทางใดทางหนึ่ง
ความหมายแฝงที่ตั้งใจอีกอย่างก็จะจางหายไป
จะทำยังไงดีให้ไม่เกิดปัญหานี้


เราก็ไม่รู้เหมือนกัน

เพราะก็เป็นอยู่ ช่างน่าปวดหัวและกลุ้มใจ

ตอนนี้พยายามที่จะคิดแล้วคิดอีก คิดๆๆๆๆๆๆๆๆ
พอเริ่มคิดออกมาเปนรูปเป็นร่าง 
ก็เริ่มไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ตัวเองคิดนั้น

มันใช่แน่จริงๆหรอ

กังวลไปซะทุกเรื่องเลยทีเดียว

วันจันทร์, สิงหาคม 03, 2552

กั้นกลาง

วันนี้นั่งรถไฟฟ้าจะไปจตุจักร
ซึ่งเป็นเวลาเย็นแล้วคนก็เยอะมาก
สักพักมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งขึ้นมา เป็นผู้หญิงหมดเลย 3 คน
แล้วพอถึงสถานีอนุสาวรีย์คนก็ลงเยอะจนมีที่นั่งพอ
ให้สามสาวนั่งได้ แต่ว่าต้องนั่งแยกกัน
ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเธอ
คนนึงนั่งไกลออกไปเกินกว่าจะคุยกันได้
แต่อีกสองคนนั่งใกล้กันโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งกั้นกลางอยู่

ซึ่งถ้าเป็นปกติ โดยส่วนใหญ่(รวมถึงตัวบีเอง)
ก็จะเขยิบให้พวกเขานั่งใกล้กันจะได้คุยกันสะดวก
แต่เธอคนนี้ไม่ เธอทนนั่งให้มีบทสนทนาที่ฟังไม่ออก
ลอยข้ามหัวไปข้ามหัวมา จนสุดสถานีจตุจักร
ก็เลยรู้สึกตลกดีที่เธอคนนี้เหมือนกลายเป็นเพื่อน
ของชาวต่างชาติกลุ่มนี้ไปซะแล้ว เพราะจากมุมที่เห็นนั้น
เธอดูเหมือนจะเปนเพื่อนสาวชาวไทยที่พยายามพา
สาวๆต่างชาตินี่ไปเที่ยวยังไงอย่างงั้น 
(ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งทำหน้าตาซังกะตายก็เถอะ)

วันอาทิตย์, สิงหาคม 02, 2552

กังวล และ กล้าหาญ

ช่วงนี้มีแต่ความกังวล และ ความไม่มั่นใจ
เพราะว่าเป็นช่วงที่ต้องเตรียมส่งหัวข้อทีสิดครั้งที่2
เนื้อหาและข้อมูลที่มีนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่พร้อม
แต่ว่าสิ่งที่เราคิดถึงมันนั้นอาจจะไม่เหมือนกับสิ่งที่กรรมการเห็น
แล้วการเห็นต่างกันจะทำให้เราเป็นเช่นไร
ความคิดเช่นนี้ไหลเวียนอยู่ในหัวตลอด 2 อาทิตย์
ความมั่นใจที่มีเริ่มหดหาย
กำลังใจเริ่มลดลงตามลำดับ

เช่นเดียวกับงานวิชา CD5 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความไม่มั่นใจ
ว่าสิ่งที่เราคิดมันจะไปถึงความคิดของอาจารย์บ้างรึป่าว
มันจะตื้นไปไหม หรือว่า จะคิดไปเองรึป่าว

แต่ก็นะ มีคนเขาพูดไว้ว่า 

การจะออกแบบอะไรสักอย่างต้องใช้ความกล้าหาญ

ทำให้เราคิดได้นิดหน่อยว่า
จะต้องกล้าเสนอไปในสิ่งที่เราอยากทำ
ถึงมันอาจจะยังไม่แน่นพอ แต่ก็เปนสิ่งที่เราอยากทำ
และสามารถสนุกและใช้ชีวิตอยู่ไปกับมันได้
คงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า 
ถึงแม้จะโดนวิจารณ์หรือต้องผิดหวังเสียใจ
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
แต่จะเป็นการเพิ่มประสบการณ์และ
ทำให้เราได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้เสียมากกว่า

วันเสาร์, สิงหาคม 01, 2552

โตไวกันจัง

วันนี้ไปเดินสยาม แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้รู้สึกคนเยอะจริงๆ
เดินแทบจะชนกันอยู่และ 
รู้สึกอึดอัดและรำคาญ ไม่รู้ทำไม

แต่ที่รู้สึกได้เลย คือ เด็กสมัยนี้โตไวจริงๆ
ทั้งเรื่องที่พูดคุยกัน หรือจะเป็นการแต่งตัว 
มานั่งคิดๆ สมัยเราอยู่มัธยม ยังไม่คุยเรื่องแบบนี้เลย
หรือแต่งตัว แต่งหน้าก็ยังไม่จัดจ้านเท่าเด็กสมัยนี้

จริงๆแล้วการที่รีบโตเกินไป
อาจจะทำให้เราหลงลืมอะไรบางอย่างไปด้วย
ความรู้สึกที่ไร้เดียงสา น่าเอ็นดูหายไปอย่างรวดเร็ว
เดียวนี้เหมือนกับว่าความอ่อนต่อโลก
กลายเป็นสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์ของเด็กไปซะแล้ว
หากว่ารู้มาก จะได้เปรียบกว่า 
จริงๆเรื่องนี้ก็ถูกในส่วนหนึ่ง
รู้มาก ก็จะต้องดีกว่าอยู่แล้ว 
แต่ว่า บางครั้งรู้ให้พอเหมาะพอสม
อาจจะทำให้ได้รู้จริงมากกว่า